Just Ask Chef Pete @ Pinch of Salt Studio

 |  August 30, 2016

คิดไม่ออก บอกเชฟพีท
Just Ask Chef Pete @ Pinch of Salt studio

มากกว่าความชอบคือการตกหลุมรัก มากกว่าสิ่งที่รักคือความผูกพัน มากกว่ามื้ออาหารที่สำคัญ คือ อาหารที่ถูกใจ ประสบการณ์ที่บ่มเพาะมากกว่า 10 ปี บนเส้นทางของการทำอาหารในหลากหลายโรงแรมระดับแนวหน้าของประเทศออสเตรเลีย ไม่ว่าจะเป็น Crown, Brasseries by Phillip Mouchel, หรือ Nobu Japanese Fusion Restaurant

เริ่มต้นตั้งแต่หั่นผัก ปลอกเปลือกมัน ค่อยๆก้าวขึ้นไปจนถึงระดับ รองเชฟใหญ่ของโรงแรม Adelphi Hotel Melbourne ทำให้เขาได้รวบรวมความรู้ มากมายไม่ว่าจะเป็น อาหารไทย ญี่ปุ่น เวียดนาม รวมไปถึงอาหารตะวันตก บวกกับเอกลักษณ์ เทคนิค และความคิดเฉพาะตัวของ เชฟพีท ศักดิ์ศิริ ประสิทธิ์บุรีรักษ์ ที่ได้คัดสรรค์วัตถุดิบจากหลากหลายพื้นที่ทั่วโลก เพื่อรังสรรค์รสชาติให้แก่ผู้คนที่ผ่านไปมาในย่านท่าแพ (มูลเมืองซอย 4) ให้ได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารที่ไม่เหมือนใครในรูปแบบของ เชฟ เทเบิ้ล (Chef’s Table)

ChefPete

เมื่อย่างก้าวเข้าไปในร้าน บางทีคุณอาจจะรู้สึกตงิด ๆ ใจ ว่าจะสั่งอะไรดี แล้วพนักงานก็ยื่นเมนูให้มา แต่สุดท้ายก็ยังไม่รู้ว่าจะทานอะไรจากใบกระดาษใบนั้นอยู่ดี… แล้วจะทำยังไงต่อหละ ก็เดินไปบอกเชฟเลยว่า ฉันจะกินแบบนี้ พอทำได้ไหม แล้วคุณจะพบว่าการพูดคุยกับเขาแค่เรื่องวัตถุดิบนั้น มันยั่วนำลายได้ขนาดไหน เสียงนำมันที่เดือดพล่าน คลุกเคล้ากับบรรยากาศแบบเรียบง่ายของร้าน ทำให้รู้สึกราวกับว่า ที่นี่คือบ้าน และโต๊ะอาหารที่เราเคยร่วมทานข้าวด้วยกันกับคนพิเศษ เพื่อน หรือ ครอบครัว

เชฟพีท เล่าเรื่องราว และความหมายของร้าน Pinch of Salt Studio ไว้ว่า “ชื่อของร้านมาจาก ข้อคิดความรู้สึกของผม ที่ว่า รสชาติ ความอร่อยของอาหารแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน เพราะรสมือแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เช่น ในการปรุงอาหาร เราไม่รู้เลยว่าแต่ละคนหยิบเกลือกันคนละเท่าไหร่ เครื่องมือชั่ง ตวง วัด จึงเป็นความรู้สึกและประสบการณ์ ดังนั้นแล้ว ผมจะใช้มือของผมหยิบมันขึ้นมาแล้วสร้างรสชาติให้แก่คุณเอง”

มาถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่พูดถึงเรื่องอาหารก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ประเดิมกันเลยกับสุดยอดเมนูที่ได้รับรางวัลการประกวดจากงาน Thailand Duck Cooking Challenge 2016 หรือภาษาไทยเรียกว่า “งานเป็ด” คือ Duck Arancini Peanut Sauce เสิร์ฟด้วยความคิดสร้างสรรค์จากการนำเนื้อเป็ดมาบด แล้วปั้นเป็นลูกบอลขนาดพอดีคำ เสิร์ฟพร้อมกับซอสถั่ว แต้มเติมด้วยทองคำเปลว ให้รสชาติเผ็ดเล็ก ๆผสมอยู่ในซอสถั่วคลุกเคล้ากับเนื้อเป็ดได้เป็นอย่างดี ทำให้ดึงรสชาติของเป็ดออกมาได้ถึงที่สุดจน จึงทำให้อาหารจานนี้เป็นจานที่ต้องลอง

สำหรับคนที่ชื่นชอบทานเนื้อหมู ต้องลอง Buta Kakuni เชฟได้ใช้เนื้อส่วนท้องที่ใช้เวลาเคี่ยวมากกว่า 4ชั่วโมงในซีอิ้ว จนเนื้อมีความนุ่ม และดูดซับรสชาติของซีอิ้วเข้าไปในเนื้อ วางบนเส้นข้าวซอยที่เหนียวนุ่มกำลังดี ซอสสูตรพิเศษที่ทำจาก เสาวรส แต้มด้วยซอสแดงทำจากพริกเอาไว้สำหรับแก้เลี่ยน อย่าลืมคลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนทาน ไม่เช่นนั้น รสชาติอาจผิดเพี้ยนไปได้ สำหรับบางคนที่ต้องการคอเลสเตอรอลน้อย ทางร้านก็ยังมีเมนู Grilled Salmon Greek Yoghurt Manuka Honey ไว้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งอีกด้วย เนื้อปลาขนาดพอดี ย่างไฟ ราดด้วยซอสโยเกิร์ตสูตรพิเศษจากทางร้านที่นำน้ำผึ้งที่ได้มาจากดอกมานูก้า ของประเทศนิวซีแลนด์ผสมลงไป ทำให้โยเกิร์ตมีรสชาติไม่เปรี้ยวมาก ทานควบคู่กับข้าวแต๋น ช่วยชูรสชาติได้ดียิ่งขึ้น สามเมนูนี้ถือว่าเป็นอาหารที่ไม่ควรพลาดที่จะลิ้มลอง แต่ที่สำคัญต้องโทรไปจองก่อนเท่านั้น เพื่อที่ลูกค้าจะได้รับอาหารที่ถูกปาก ถูกใจ

ความรู้สึกที่ได้ทานบอกกับผมว่าแค่ตัวหนังสือคงไม่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ภายในอาหารออกมาได้หมด ดั้งนั้น ไปพิสูจน์ด้วยรสสัมผัสของคุณเอง แต่ถ้านึกอะไรไม่ออก ให้บอกเชฟ


Chef Saksiri Prasitbureeruk, nicknamed Chef Pete, has a pedigree, having worked at Nobu Japanese Fusion Restaurant and the Adelphi Hotel in Melbourne, Australia, amongst many others. Upon returning to Thailand he was inspired to open this restaurant following the philosophy of fine dining with personal and interactive cooking.

The menu is delightful, from the winner of the Thailand Duck Cooking Challenge 2016’s Duck Arancini Peanut Sauce of minced duck balls dipped in peanut sauce, to the Buta Kakuni, tender pork marinated in sauce for up to four hours. For those who are health conscious, you can’t miss the delicate and balanced flavours of the Grilled Salmon Greek Yoghurt Manuka Honey, a truly unique dish.

But what gets Chef Pete excited is if you can’t quite make up your mind what to order. Simply go up to him and tell him what you like and he will take up the challenge, and ingredients willing, will create a bespoke dish or additional flavours or techniques just for you.

Pinch of Salt is one of the exciting new restaurants in the city, have you checked it out?

Pinch of Salt Studio
ถ.มูลเมือง ซอย 4 (ห่างจากโรงแรม M Hotel มาประมาณ 50 เมตร ติดกับวัดดอกคำ) โทร. 099-551-1009
เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10.30 – 21.30 น. (กรุณาโทรแจ้งล่วงหน้าเพื่อจองโต๊ะ) Facebook: Pinchofsaltstudio

Moon Muang Soi 4 (50 metres from M Hotel, next to Dok Kham Temple) Open daily 10.30am-9.30pm (reservations advised) Tel. 099-551-1009
Facebook: Pinchofsaltstudio