Sukjai by Pata Obasan สืบสานตำนานอาหารมังสวิรัติ ในแบบที่คงคุณค่าวัตถุดิบตามธรรมชาติไว้ได้อย่างสมบูรณ์

 |  June 17, 2025

Read this article in English

ป้าตา จำเนียร เอี่ยมเจริญ หรือที่รู้จักกันในนาม ป้าตา โอบะซัง เจ้าของสูตรเมนูอาหารไทยมังสวิรัติที่ไม่เบียดเบียนเนื้อสัตว์ ไม่ใส่สารกันเสียและผงชูรส ปรุงรสแบบไร้กะปิ น้ำปลา พร้อมทั้งแบ่งปัน ถ่ายทอดความรู้ด้านอาหารมังสวิรัติให้กับลูกศิษย์ลูกหาทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศจนเป็นที่รู้จักในหมู่ผู้ที่สนใจอาหารมีงสวิรัติทั่วโลก
ป้าตาเล่าให้ฟังว่า “พื้นเพเราเป็นคนกรุงเทพ แต่มาตั้งรกรากอยู่ที่เชียงใหม่ตั้งแต่ปี 2530 หนีความวุ่นวายมาใช้ชีวิตอยู่ที่สวนสุขใจ ในอำเภอแม่แตง เป็นสวนเล็กๆ ที่ทำขึ้นมาเพื่อใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ เราเรียนรู้และสั่งสมด้านการทำอาหารมาตั้งแต่เด็กๆ ซึมซับมาเรื่อยๆ เริ่มจากทำข้าวแกงที่บ้าน และมีความสนใจเรื่องอาหารพื้นเมืองทางเหนือ อาหารไทใหญ่ เรียนรู้การทำและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินมาเป็นมังสวิรัติ ฝึกมาเรื่อยๆ จนการทำอาหารกลายเป็นเรื่องง่าย และเชื่อว่าอาหารจากชาติไหนก็สามารถดัดแปลงเป็นมังสวิรัติได้”

ถ้าเป็นเมื่อก่อน ไม่ค่อยมีใครได้มีโอกาสชิมอาหารฝีมือป้าตามากนัก เพราะป้าตามักจะทำอาหารเพื่อถวายวัดหรือตามงานบุญต่างๆ จนเมื่อป้าตาไปไปจัดกาดมั่วเล็กๆ ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยนำเอาวัตถุดิบญี่ปุ่นมาทำอาหารไทยในแบบของตัวเอง ป้าตาจึงได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากสื่อในญี่ปุ่น และได้รับการติดต่อขอสัมภาษณ์จากทั้งหนังสือพิมพ์ รายการทอล์คโชว์ ไปจนถึงสำนักข่าว NHK ทำให้ป้าตาเป็นที่รู้จักมากขึ้น และมีลูกศิษย์บินมาจากญี่ปุ่นเพื่อมาขอเรียนทำอาหาร และนั่นเป็นที่มาของชื่อ ป้าตา โอบะซัง 

หนึ่งในความฝันของป้าตาคือการให้ผู้คนได้ทานอาหารไทยมังสวิรัติ ที่รสชาติยังคงความเป็นต้นตำรับครัวไทย และถ่ายทอดองค์ความรู้นี้ให้กับคนรุ่นต่อไป

“เราเชื่อว่ายิ่งให้ ยิ่งได้ และเราอยากทำอาหารที่ทุกคนได้ความสุขกลับไป เรามีความสุขที่ทำให้คนทานมีความสุข เหมือนได้ทานฝีมือแม่ที่นำแต่สิ่งดีๆ มาปรุงแต่ง อาหารเป็นเสน่ห์ปลายจวัก เมื่อคนทานเห็นเราก็จะนึกถึงอาหารที่เค้าชอบ” ป้าตากล่าว

จากสวนสุขใจ สู่การสืบสานตำนานอาหารไทยมังสวิรัติ อาคารอายุ 96 ปีในย่านสันป่าข่อยได้ถูกปัดฝุ่นโดยคุณมดและคุณโหน่ง ลูกศิษย์ผู้ทำอีกหนึ่งความฝันของป้าตาให้เป็นจริง ทั้งคู่ส่งต่อรสชาติฝีมือของป้าตาในรูปแบบอาหารไทยมังสวิรัติแบบรสมือแม่ ภายใต้ชื่อร้าน Sukjai by Pata Obasan
คุณโหน่งเล่าให้ฟังว่า “เราเคยเรียนเชฟ และมังสวิรัติก็เป็นอาหารอีกเทคนิคหนึ่ง เราได้คนพบป้าตาเชฟไทยมังสวิรัติชื่อดังที่คนทั่วโลกบินมาเรียน ได้แรงบันดาลใจจากการดูคลิป ทั้งในเรื่องศาสตร์ที่ป้าทำและชีวิตของป้า ก็เลยเดินทางไปหาป้าถึงบ้าน ฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ป้าตาเหมือนเป็นครูในการใช้ชีวิตและเรื่องอาหาร”

“เราสนใจเรื่องอาหารมังสวิรัติอยู่แล้ว มันยากมาที่จะหาร้านอาหารที่ได้รสชาติแบบนี้ มีความซับซ้อนในรสชาติ เป็นอาหารไทยที่หาทานได้ยาก มดกับโหน่งจึงร่วมกันเปิดร้านอาหารสุขใจ คำว่าสืบทอดคือเราต้องพยายามรักษารายละเอียด ความพิถีพิถัน เรียนรู้จากป้าตาหลายเดือนกว่าที่จะมาเปิดร้าน ต้องส่งต่อให้ดีที่สุด” คุณมดกล่าวเสริม

อาหารของร้านอาหารสุขใจเป็นมังสวิรัติที่อร่อยได้ทุกวัน ให้คนทานได้เข้าถึงอาหารสุขภาพที่มาจากแหล่งต้นทางที่สะอาดปลอดภัย บนศิลปะการทำอาหารไทยที่ลึกซึ้งประณีต เป็นแพลนต์เบส (Plant Based) ที่ใช้พืชผักไร้สารเคมี ไม่ใส่สารกันเสียและผงชูรส ปรุงรสแบบไร้กะปิ น้ำปลา และคุณค่าอาหารยังคงอยู่

เมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ก็คือหมูสะเต๊ะ จานทานเล่นที่ทำขึ้นจากโปรตีนที่ทางร้านทำขึ้นมาเอง ไม่มีสารกันเสีย นำไปตุ๋นกับกะทิ จนได้สะเต๊ะกลิ่นหอมเนื้อนุ่ม

ปลาดุกผัดพริกฉู่ฉี่ จานทานอร่อยที่นำเต้าหู้ 3 ชนิดที่ต่างรสสัมผัส มาโรลกับสาหร่ายก่อนนำไปทอด เนื้อสัมผัสที่กรุบกรอบให้ความรู้สึกเหมือนกับได้ทานหนังปลากรอบ

เบอร์เกอร์หมูขนุน อีกจานซิกเนเจอร์ที่นำขนุนอ่อน มาผ่านเทคนิคการนึ่ง ปรุงรส และเซ็ตตัวให้กลายเป็นไส้เบอร์เกอร์กับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร

สำหรับเมนูเมืองเหนือ ทางร้านก็เสิร์ฟมาในรูปแบบมังสวิรัติที่ไม่ทิ้งแบบฉบับ อย่างข้าวเงี้ยวที่ทำมาจากข้าวหอมนิล ข้าวที่มีสีดำโดยธรรมชาติ รสชาติหวาน เนื้อเหนียวนุ่ม มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ นำไปนึ่งเพื่อคงความเป็นรสชาติของข้าวเงี้ยว สำหรับลาบคั่ว จะแทนที่หมูสับและเครื่องในหมู ด้วยบุกและเต้าหู้ ส่วนไส้อั่วจะใช้เต้าหู้ และเห็ด 3 ชนิดมาผสมผสานทำเป็นไส้ เพิ่มรสชาติความกรุบ

Sukjai by Pata Obasan
40 ถ.เจริญเมือง ต.วัดเกต อ.เมือง
เวลาเปิดปิด : 11.00 – 21.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
โทร
. 065 054 6266
GPS:
https://maps.app.goo.gl/P2ijpV2E4RJADnS98