‘มิชลินไกด์’ ส่งเหล่าสเป็กเตอร์เยือนเชียงใหม่

 |  August 28, 2019

Read this article in English

ช่วงนี้หนึ่งในหัวข้อสนทนาของเหล่าร้านอาหารและคนทำครัวในเชียงใหม่คงหนีไม่พ้น ‘การมาเยือนของมิชลินไกด์’ ที่เคยได้สร้างความฮือฮาไปเมื่อปีที่แล้วโดยการมอบมิชลิน 1 ดาวให้กับร้านเจ๊ไฝเมื่อปี 2560

เชื่อว่าปลายปีนี้ วงการอาหารเชียงใหม่จะต้องคึกคักขึ้นอีก เพราะมิชลินจะเปิดตัวคู่มือ ‘มิชลินไกด์’ ฉบับปี 2563 ชื่อ ‘มิชลิน ไกด์ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ตและพังงา’ (The Michelin Guide Bangkok, Chiang Mai, Phuket & Phang-Nga 2020) ซึ่งเป็นฉบับแรกที่จะมาเยือนเชียงใหม่ และมอบรางวัลให้กับเหล่าร้านอาหารและ
ที่พักดีๆ

หลายคนอาจสงสัยว่า ‘มิชลินไกด์’ คืออะไร และมีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับอาหาร แท้จริงแล้วก่อนจะมาเป็น ‘มิชลินไกด์’ คู่มือร้านอาหารที่เป็นที่ยอมรับระดับโลกนั้น สองพี่น้องตระกูลมิชลินที่บริหารกิจการยางรถยนต์ ได้ทำหนังสือคู่มือเพื่อบอกพิกัดที่พัก ปั๊มน้ำมันและจุดพักรถสำหรับนักเดินทาง โดยคาดหวังให้ผู้คนออกมาท่องเที่ยว ต่อมาก็เริ่มแนะนำร้านอาหาร และมอบรางวัลให้กับร้านอาหารชั้นเลิศจนกระทั่งกลายเป็นไกด์บุ๊กสำหรับนักชิม ปัจจุบันมิชลินไกด์ได้ประเมินเหล่าร้านอาหารและที่พักมาแล้วกว่า 40,000 แห่งทั่วโลก และมียอดขายราวๆ 30 ล้านเล่ม

ปกติแล้วมิชลินไกด์จะมี ‘นักชิมลึกลับ’ หรือ เหล่าสเปกเตอร์ (spector) ซึ่งเป็นทีมนักชิมที่ไม่เปิดเผยตัวตน มีหน้าที่สำรวจและและประเมินร้านอาหารที่สมควรจะได้รับดาวมิชลิน พวกเขาสมัครใจเข้ามาทำหน้าที่นี้และได้รับการอบรมมาอย่างเชี่ยวชาญโดยมีเกณฑ์การประเมินสำหรับคัดเลือกร้านอาหารที่สุดยอด 5 ข้อ คือ คุณภาพสินค้า, การจัดเตรียม และรสชาติ, ลักษณะเฉพาะตัวของเชฟที่สื่อผ่านอาหารที่ปรุงขึ้น, ความคุ้มค่าสมราคา และความเสมอต้นเสมอปลายของคุณภาพและรสชาติอาหาร

ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ได้มีแค่ ‘มิชลินสตาร์’ ทว่าในไกด์บุ๊กแต่ยังมี ‘รางวัลบิบกูร์มองด์’ รางวัลสำหรับร้านอร่อยราคาน่าคบ เกณฑ์คือสามารถทานอาหาร 4 จานได้ในราคา 1,000 บาท และรางวัล ‘มิชลิน เพลท’ สำหรับร้านที่ใช้วัตถุดิบอย่างดี ปรุงพิถีพิถัน ราคาสูงกว่าบิบกูร์มองด์ อร่อยและคุณภาพดี แต่ยังไม่ดีระดับดาวมิชลิน

จะว่าไปแล้วเชียงใหม่ของเรานับว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองอาหารที่น่าจับตามอง ด้วยวัฒนธรรมการกินที่มีเอกลักษณ์ มีร้านอาหารดีๆ และเหล่าเชฟมากฝีมืออยู่มากมาย อีกทั้งยังโดดเด่นเรื่อง ‘วัตถุดิบ’ จากธรรมชาติ เพราะที่นี่มีโครงการหลวงถึง 27 แห่ง มีพืชพรรณสดใหม่ส่งตรงถึงผู้บริโภคในทุกๆ วัน การมาเยือนของมิชลินในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการนำเสนออาหารดีๆของเชียงใหม่ออกสู่สายตาของชาวโลก ยังเป็นการยกระดับและมาตรฐานร้านอาหารในเชียงใหม่อีกด้วย

ทาง Spoon&Fork ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณ Gaëlle Van Hieu หัวหน้าฝ่ายการสื่อสารการตลาดและการขายมิชลินไกด์ประเทศไทย ถึงมุมมองด้านอาหารที่เธอมีต่อเชียงใหม่ ซึ่งเธอได้บอกกับเราว่า “กรุงเทพฯเป็นเมืองใหญ่ มีร้านอาหารอินเตอร์ฯ มากมาย และมีร้านอาหารห้าดาวจากทั่วโลกอยู่ในกรุงเทพฯ จังหวัดกรุงเทพฯเป็นตัวแทนของโลกได้เลยในเรื่องของอาหารการกิน และไลฟ์สไตล์ แท้จริงแล้วเชียงใหม่ก็เป็นอีกเมืองที่น่าสนใจ และมีโอกาสสูงเพราะเป็นเมืองวัฒนธรรมขนานแท้ มีบ้านของชาวเหนือ มีวัฒนธรรมยาวนานกว่า 700 ปี”

“เราอยากเป็นแรงบันดาลใจให้กับเชฟ พ่อครัว แม่ครัวและคนทำร้านอาหารให้เข้าสู่ระบบที่เป็นมาตรฐาน มีกลุ่มคนที่พร้อมจะจับจ่ายมากขึ้น ไม่ได้ดีเพราะมีดาวเป็นเครื่องการันตี แต่ดีเพราะเป็นร้านอาหารที่ได้มาตรฐานอย่างแท้จริง” คุณ Gaëlle Van Hieu ทิ้งท้ายกับเรา