CityNews – From 9th August to 10th September Mae Jo University surveyed 711 farmers on their opinions towards AEC – their preparation for AEC, the departments giving them information about AEC, the pros and cons of AEC on agriculture, and the help they think they need from the government.
When asked about their preparation for AEC 44.9% of farmers had made some changes already, including working on methods of cost reduction and how to increase output quality, but 55.1% of farmers said they had done nothing as they didn’t have adequate knowledge of AEC.
On the topic of departments giving them information about AEC 78.2% of the farmers said that there were some people and departments talking to them about AEC, while 21.8% said no one had told them anything about it.
Concerning the pros and cons of AEC 88.6% of farmers thought that AEC would help as there would be more markets for their products, better agriculture technology and improved communication among countries. However 87.9% said that AEC would also cause problems such as increasing numbers of competitors, and falling prices.
The farmers said that they would like the government to teach them better ways to farm. They would also like to have some insurance on the price of their agricultural produce. They would like the government to control the cost of production factors, as well as show them how to transform their produce and export them.
แม่โจ้โพลล์เผย เกษตรกรร้อยละ 55.1 ยังไม่มีการเตรียมตัวรับมือการเปิด AEC
อาชีพการเกษตรถือได้ว่าเป็นอาชีพที่มีความสำคัญและเป็นเหมือนอาชีพหลักของคนไทย ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตร แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นอาชีพที่ยังไม่มีความแน่นอนด้านราคาของผลผลิต อีกทั้งยังต้องมีการแข่งขันด้านราคาและผลผลิตกับต่างประเทศ เมื่อประเทศไทยเข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเป็นทางการ ในปี 2558 ดังนั้น ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและพยากรณ์ทางการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่ ได้สำรวจความคิดเห็นของเกษตรกรภาคเหนือ จำนวน 711 ราย ในหัวข้อ “มุมมองเกษตรกรต่อการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” ระหว่างวันที่ 9 สิงหาคม – 10 กันยายน 2556
ซึ่งผลผลการสำรวจโดยแบบสอบถามถึงการเตรียมตัวของเกษตรกร เมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน พบว่า ร้อยละ 44.9 มีการเตรียมตัว โดย หาความรู้และวิธีการในการลดต้นทุนการผลิต หาความรู้ในการเพิ่มคุณภาพผลผลิต เช่น การแปรรูป หาความรู้ด้านการทำเกษตรอินทรี และเกษตรปลอดสาร ในขณะที่ร้อยละ 55.1 ที่ยังไม่มีการเตรียมตัว เนื่องจากเกษตรกรยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
เมื่อถามถึงหน่วยงานที่เข้ามาให้ความรู้ เกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน นั้น พบว่า ร้อยละ 78.2 บอกมีหน่วยงาน ได้แก่ อันดับที่ 1 เกษตรอำเภอ/เกษตรตำบล อันดับที่ 2 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร อันดับที่ 3 สหกรณ์ในพื้นที่ และ อันดับที่ 4 กรมส่งเสริมสหกรณ์ ในขณะที่มีเพียง ร้อยละ 21.8 บอกไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาให้ความรู้
เมื่อถามถึง ผลดี และ ผลเสีย ต่อภาคการเกษตรเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน พบว่า ร้อยละ 88.6 จะทำให้เกิดผลดีต่อภาคการเกษตร เช่น มีตลาดรองรับผลผลิตมากขึ้น เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตร มีแรงงานภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น และมีปัจจัยการผลิตให้เลือกมากขึ้น และร้อยละ 87.9 จะส่งผลเสียต่อภาคการเกษตร เช่น มีคู่แข่งด้านการผลิต และการตลาดมากขึ้น มีมาตรการต่างๆที่เป็นอุปสรรค ทำให้เกษตรกรไทยผลิตผลผลิตได้ยากขึ้น และทำให้ราคาผลผลิตเกษตรตกต่ำ
สำหรับความต้องการให้ทางภาครัฐเข้ามาให้ความช่วยเหลือ นั้น พบว่า อันดับที่ 1เกษตรกรต้องการให้ภาครัฐเข้ามาส่งเสริมความรู้ในการทำเกษตรอย่างถูกวิธี อันดับที่ 2 ต้องการให้มีการประกันและรับจำนำผลผลิตการเกษตรทุกชนิด อันดับที่ 3 ต้องการให้ควบคุมเรื่องราคาปัจจัยการผลิตต่างๆให้เหมาะสม อันดับที่ 4 ต้องการให้ภาครัฐเข้ามาส่งเสริมความรู้ในการแปรรูปผลผลิตการเกษตร อันดับที่ 5 ต้องการให้ส่งเสริมแหล่งทุนเพื่อการเกษตรให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ อันดับที่ 6 ต้องการให้ส่งเสริมและให้ความรู้ในเรื่องการส่งออกผลผลิตการเกษตร อันดับที่ 7 ต้องการให้สร้างแบรนและมาตรฐานของสินค้าเกษตรนั้นๆ และอันดับที่ 8 ต้องการให้ส่งเสริมตลาดรองรับผลผลิตให้มากขึ้น