Read this article in English
ร้านสวยที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังกำแพงอิฐสีส้มอ่อน ท้ายซอย 3 นิมมานเหมินทร์ เป็นที่ตั้งของ Saruda Finest Pastry ร้านขนมสไตล์ modern French ที่มีขนมหน้าตาสวยงามเรียงรายอยู่ในตู้ชวนให้ปรี่เข้าไปดูใกล้ๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น ไม่เพียงเฉพาะหน้าตาที่สวยงามเท่านั้น แต่ขนมทุกชิ้นยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความประณีตและใส่ใจของเชฟ ‘วิว – ศรุดา วิรัช’ ผู้รังสรรค์ขนมแต่ละตัวได้ออกมามีเอกลักษณ์และหวานหอมแบบที่หาตัวจับได้ยาก
EXOTIC ISLAND
ต้อนรับหน้าร้อนกันด้วยมะพร้าวลูกกลม ด้านในเป็นเนื้อเค้ก madelein มีความฉ่ำเนื่องจากแช่ในน้ำเชื่อมเสาวรส และมีกลิ่นหอมสดชื่นเหมือนลมเย็นๆ ที่พัดมาคลายร้อนด้วยกลิ่นของผิวมะนาวที่ขูดลงไป ด้านในซ่อน exotic compote ผลไม้หน้าร้อนอย่าง สับปะรด น้ำมะม่วง เนื้อมะม่วงสด และมาลิบู เคี่ยวจนได้เนื้อสัมผัสกำลังดี โอบอุ้มให้อยู่เป็นเนื้อเดียวกันด้วยมูสมะพร้าวเนื้อเนียนนุ่มด้านนอก ช็อกโกแลตบางกรอบที่เป็นเปลือกมะพร้าวเก็บรายละเอียดได้อย่างสวยงาม ฐานของขนมชิ้นนี้พิเศษกว่าตัวไหนๆ เพราะมีถึงสองชั้นและให้รสชาติคนละแบบ มีทั้ง coconut croustillant และ toast coconut Breton
ORANGE BLISS
หากไม่บอกว่าเป็นขนม คงนึกว่าเจ้าลูกกลมๆ ที่วางอยู่ตรงหน้าคือ ผลส้มจริงแน่ๆ ด้วยผิวขรุขระและมีใบส้มประดับด้านบนแบบนี้ แค่มองด้วยตาเปล่าก็พอจะทราบว่าผู้รังสรรค์ต้องใช้ความละเอียดและการฝึกฝนจนชำนาญในการตกแต่ง ส้มด้านนอกทำมาจากไวท์ช็อกโกแลต มีรสขมอ่อนๆ และเนื้อสัมผัสบางกรอบ เหมือนเชื้อเชิญให้เราเข้าไปสู่ด้านในของขนม ส่วนกลางคือน้ำส้มคั้นสดที่ผสมด้วยเนื้อส้ม นำไปเชื่อมแบบหวานกำลังดี มีความหนึบเล็กน้อย รสชาติเปรี้ยวอมหวานสดชื่นเข้ากับครีมผิวส้มและตัวเปลือกเป็นอย่างดี ฐานด้านล่างคือ hezelnut crispy rice ช่วยเพิ่มมิติสัมผัสกรุบกรอบหลังจากที่ได้ละเลียดความนุ่มนวลของตัวส้มไปแล้ว เป็นอีกชิ้นที่เหมาะกับการต้อนรับฤดูร้อนที่กำลังจะมาเยือน
MANGO PASSION
เชฟบรรจงพ่น glaze เพื่อไล่สีอยู่หลายชั้น กว่าจะออกมาเป็นมะม่วงผลสวยชิ้นนี้ ชั้นแรกเป็นครีมชีสมูสเนื้อเนียน เพิ่มความพิเศษด้วย mango passion fruit confit ซอสที่มีเนื้อมะม่วงฉ่ำๆ และเสาวรสเปรี้ยวๆ ตัวฐานเป็น sable parmesan ทำมาจากแป้งผสมกับพาร์เมซานชีสนำไปรีดให้เป็นแผ่นแล้วนำไปอบ มีกลิ่นหอมของพาร์เมซานชีสอีกแบบนอกเหนือจากครีมชีสด้านบน เมื่อทานรวมกันแล้วมีมิติที่หลากหลายทั้งรสชาติและเนื้อสัมผัส ความเปรี้ยวของไส้ด้านในตัดกับความหอมมันของชีสที่โอบล้อมไว้เป็นอย่างดี
LA ROSE
เป็นอีกชิ้นที่มีรสชาติเหมือนความรักครั้งแรก เพราะมีทั้งรสเปรี้ยวอมหวานของราสเบอร์รี่และลิ้นจี่ รวมถึงความหวานโรแมนติกลึกลับของดอกกุหลาบ ลูกกลมๆ สีขาวประกายเงินลูกนี้ ด้านในเป็นครีมกานาช มองเต้รสกุหลาบ ผสมกับ rose crystal เพิ่มกลิ่นหอมและเนื้อสัมผัสให้กับเนื้อครีม แต่ละชั้นด้านในยังเป็นครีมราสเบอร์รี่ และลิ้นจี่ ทานตัดกับครีมกุหลาบ ประกอบกับ biscuit citron หอมสดชื่น ด้านบนบรรจงตกแต่งด้วยกลีบดอกกุหลาบที่ทำจากกานาชมองเต้ และตกแต่งด้วยกลิตเตอร์ระยิบระยับสีแดง พร้อมมีหยดน้ำค้างเล็กๆ เกาะอยู่ ราวกับว่ากุหลาบดอกนี้กำลังเบ่งบานรับแสงอาทิตย์ในยามเช้า
QUASAR
เค้กช็อกโกแลตที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวัตถุขรุขระที่ลอยคว้างอยู่ในอวกาศ ตัวมูสใช้ Valrhona ช็อกโกแลตพรีเมียมคุณภาพดีระดับโลกมีความหวานขมพอดี ด้านในเป็นซอสส้มแมนดารินหอมๆ ของโปรดที่เชฟชื่นชอบ เข้ากันดีกับเหล่าช็อกโกแลตที่ห่อหุ้มความเปรี้ยวอมหวานนี้เอาไว้ ด้านในยังมี choc biscuit cake ที่มีความหนึบและฉ่ำเข้มข้น ผิวด้านนอกกรุบกรอบด้วยครัมเบิล ประดับด้วย popping candy แวววับเคลือบกลิตเตอร์สีทองแดง เป็นอีกหนึ่งชิ้นที่มีเนื้อสัมผัสหลากมิติ ทั้งความหวานขมและเปรี้ยวสดชื่น รวมถึงความหนึบและกรุบกรอบ ปิดท้ายด้วย popping candy ที่ดีดตัวเปาะแปะอยู่ในปาก
หลังจากที่เล่าเรื่องราวของขนมแต่ละตัวแล้ว เชฟยังเล่าให้เราฟังว่าแต่ละชิ้นนั้นต้องผ่านการคิดและทดลองสูตรหลายต่อหลายครั้งกว่าจะสำเร็จและเป็นขนมหน้าตาสวยงามที่เรียงรายอยู่ในตู้ นอกจากรสชาติที่ได้ชิมแล้วจะต้องหลงรัก เรายังได้ลิ้มรสของความตั้งใจและความใส่ใจที่เป็นวัตถุดิบสำคัญจากเชฟที่ผสมลงไปในขนมทุกชิ้นที่ Saruda Finest Pastry อีกด้วย
Saruda Finest Pastry
12 นิมมานเหมินทร์ ซอย 3
เปิดทุกวัน 9.00 – 19.30 น.
โทร. 095 224 5536
Faceboook: Saruda Finest Pastry
Instagram: Saruda.Pastry
