Read this article in English
‘รสชาติแบบอีสานเหนือแท้ๆ’ เค็มนำ ไม่ติดหวาน เผ็ดร้อน ครบเครื่อง ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ตำอีสาน’ ขนานแท้ คือรสที่ เอ้ – ธนฤกษ์ เหล่าเราวิโรจน์ ตั้งใจจะให้ชาวโลกได้ลิ้มลองในร้าน ‘ส้มตำเด้อ’ ส้มตำร่วมสมัยที่นำเสนอรสชาติแบบสกลนครที่เขาได้หลงรักมาตั้งแต่เด็ก และด้วยรสชาติอันมีเอกลักษณ์นี้เอง ทำให้ร้านนี้ไปไกลถึงนิวยอร์คและคว้า 1 ดาวจากมิชลินสตาร์มาครอบครองได้
จากเพิงย่านอโศกสู่ร้านร่วมสมัยในซอยศาลาแดง
ด้วยความตั้งใจที่อยากจะทำร้านที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวเอง คุณเอ้จึงตัดสินใจเปิดร้าน ‘ส้มตำเด้อ’ ร้านส้มตำรสชาติดั้งเดิมแบบที่ชาวสกลนครทาน โดยได้เชฟฝีมือดี อย่าง เชฟ กร -กรณ์ฐนัธ ทองนำ ชาวสกลนครแท้ๆ มาช่วยคิดสูตรอาหารและรังสรรค์เมนูต่างๆ แรกเริ่มส้มตำเด้อเป็นเพิงส้มตำเล็กๆ ในย่านอโศกเท่านั้น ถึงแม้จะยังไม่มีร้านเป็นหลักแหล่ง แต่ผู้คนก็แวะเวียนมาทานกันอย่างไม่ขาดสาย ถึงขั้นต่อแถวเข้าคิวกันเป็นครั้งคราว
ด้วยผลตอบรับที่น่าประทับใจ ปี 2554 ส้มตำเด้อจึงขยับขยายมาเป็นร้านส้มตำอย่างเต็มรูปแบบในซอยศาลาแดง เป็นร้านแบบร่วมสมัย แม้จะอยู่ใจกลางเมืองหลวงแต่กลิ่นอายของความเป็นอีสานยังคงอบอวลอยู่ ผ้าขาวม้าลายสวยประดับประดาอยู่ที่ผนัง หวดหาปลาถูกออกแบบให้เป็นโคมไฟเก๋ไก๋ ครกใบใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่บนเคาเตอร์ครัวแบบเปิด รายล้อมด้วยเครื่องส้มตำที่บรรจุในโหลแก้ว เวลาตำส้มตำจะได้ยินเสียงสากกระทบครกให้ความรู้สึกเป็นกันเองเหมือนนั่งทานร้านสตรีทฟู้ดทั่วไป เพียงแต่ที่นี่มีเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ และบริการที่เป็นมิตร
นิวยอร์ค โตเกียว โฮจิมินทร์ และมิชลินสตาร์
ปี 2557 เป็นยุคชาวนิวยอร์คเริ่มโหยหารสชาติอาหารแบบดั้งเดิม ประจวบเหมาะกับที่ ‘ส้มตำเด้อ’ ได้พาส้มตำสกลฯ ไปให้คนที่นั่นได้ลิ้มลองแบบไม่มีการตัดทอนรสชาติ ปรุงแบบอีสานเหนือแท้ๆ พิถีพิถันตั้งแต่ขั้นตอนของการเลือกใช้วัตถุดิบ แม้กระทั่งปลาร้าก็เป็นปลาที่มาจากกาฬสินธุ์ รสชาติ ‘นัว’ กลมกล่อม อีกทั้งยังสะอาดทุกกระบวนการทำให้สาขานี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และหนึ่งในสิ่งที่ยืนยันความจริงข้อที่กล่าวมาข้างต้นก็คือ ‘รางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว’ จากมิชลินไกด์ ปี 2559 หลังจากนั้นส้มตำเด้อก็ได้เติบโตไกลไปถึงโตเกียว โฮจิมินห์ และเชียงใหม่
ส้มตำเด้อ ‘เชียงใหม่’
ส้มตำเด้อสาขาเชียงใหม่ ตั้งอยู่ในโครงการ One Nimman สไตล์การตกแต่งร้านยังคงมีเอกลักษณ์แบบอีสานสไตล์เช่นเดิม พร้อมยกขบวนส้มตำแซ่บๆ และเมนูเด็ดๆ มาให้ชาวเชียงใหม่ได้ชิม
เมนูส้มตำของที่นี่มีความโดดเด่นกันคนละแบบ แต่ที่เห็นว่าเป็นเมนูที่ควรค่าแก่การมาลองสักครั้ง ขอยกให้กับ ตำซั่วสกลนคร ที่โรยหน้าด้วยเม็ดกระถินสีเขียวอ่อนทำให้มีเนื้อสัมผัสที่กรุบกรอบและมีรสหอมมันเข้ากับตำซั่วเผ็ดร้อนนัวๆ เป็นอย่างดี ด้านตำไทยต้องยกให้ ตำปลาดุกฟู แบบครบเครื่อง ใช้ปลาดุกฟูทำเองคุณภาพดี เนื้อเยอะ แป้งน้อย กรอบหอมมันเข้ากับความสดชื่นของน้ำตำไทยเปรี้ยวหวาน และ ตำด้งเด้อ หรือตำถาด ที่รายล้อมด้วยเครื่องเคียงมากมาย แต่ที่เด็ดที่สุดเห็นจะเป็นกุ้งทอด ที่ตัวแป้งกรอบนอกนุ่มใน เนื้อกุ้งสดและเด้ง ให้จกทานพร้อมตำปลาร้าที่วางมาเคียงกันจะลงตัวที่สุด
นอกจากส้มตำแล้วยังมีจานแซ่บๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ลาบปลาดุกย่าง ที่ใช้เนื้อปลาดุกเน้นๆ คลุกเคล้ากับเครื่องลาบกลมกล่อม แกงอ่อมหมู น้ำแกงเข้มข้นอบอวลไปด้วยกลิ่นผักชีลาวหอมกรุ่น ซดแกงร้อนจนอิ่มหนำแล้วมาเพลินกันต่อกับ สะโพกไก่ทอด หมูร้องไห้ ไส้กรอกอีสาน และ หมูปิ้งกะทิ หมูปิ้งเนื้อนุ่ม ราดด้วยกะทิหอมมัน เนื้อของหมูปิ้งตัดกับความละมุนของกะทิอย่างลงตัว
ปิดท้ายด้วยของหวานแบบไทยๆ แต่แปลกใหม่ด้วยเทคนิคการเสิร์ฟที่ไม่เหมือนที่ไหน อย่างเฉาก๊วยที่นำมาแช่แข็งกับน้ำเชื่อมและน้ำตาลอ้อย ตักทานแบบหวานเย็นโบราณอร่อยไปอีกแบบ นอกจากนี้ยังมีจ้ำบ๊ะ น้ำแข็งไสแบบไทยๆ บัวลอยเผือก ทับทิมกรอบ ฯลฯ สำหรับเครื่องดื่มก็ครบครันมีทั้งน้ำสมุนไพรให้ได้จิบเย็นๆ ชา กาแฟ และยังมีค็อกเทลแบบไทยๆ ให้ได้จิบ นับว่าปิดท้ายมื้ออาหารได้ร่วมสมัยสมกับเป็น ‘ส้มตำเด้อ’
ส้มตำเด้อ เชียงใหม่
1/1 นิมมานเหมินทร์ ซอย 1 (โครงการ One Nimman)
เปิดทุกวัน 11.00 – 22.00 น.
โทร.090 325 1181
Facebook: Somtum Der ส้มตำเด้อ เชียงใหม่
www.somtumder.com