Read this article in English
อากาศเย็นๆ ของเดือนธันวาคมมักชวนให้คิดถึงวันวาน บ้านหลังเก่า หรือเช้าวันหนึ่งในวัยเด็กที่อบอวลไปด้วยกลิ่นข้าวสวยร้อนๆ และอาหารไทยฝีมือแม่ เทศกาลแห่งความสุขในปีนี้ ชวนคนที่คุณรักมาล้อมวงทานข้าวกัน ที่อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท กับอาหารไทยรสเลิศปรุงโดยเชฟมือฉมังผู้ที่จะพาพริกแกงสูตรคุณแม่ไปให้ชาวโลกรู้จัก
ทรงพล ผลแก้ว หรือ เชฟทรงพล เป็น Executive Sous Chef
แห่งห้องอาหาร เดอะเซอร์วิส 1921 ณ อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท
ทรงพล ผลแก้ว หรือ เชฟทรงพล เป็น Executive Sous Chef เบื้องหลังอาหารไทยจานพิเศษแห่งห้องอาหาร เดอะเซอร์วิส 1921 ณ อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท เขาคลุกคลีอยู่กับงานครัวมาตั้งแต่เด็ก เพราะคุณแม่เปิดร้านอาหารเล็กๆ ในตัวเมืองสุรินทร์ ทำให้เขามีโอกาสได้ติดตามไปจ่ายตลาดและช่วยตำพริกแกงทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน เมื่อเติบโตขึ้นเขาได้ประกอบอาชีพอื่นอยู่สักพักใหญ่ๆ ก่อนจะพบว่าสิ่งที่ชอบที่สุดคือ ‘การทำอาหาร’ และนั่นเป็นจุดพลิกผันที่ทำให้เขากลับมาสู่เส้นทางสายนี้อีกครั้ง
เชฟทรงพลตัดสินใจสมัครเป็นเชฟในโรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่งที่เกาะสมุย แม้มีเพียงประสบการณ์การทำอาหารกับแม่ในวัยเยาว์ แต่เมนู‘ไข่ยัดไส้’ และ‘แกงเขียวหวานปลากราย’ ของเชฟทรงพลในตอนนั้นก็จัดว่าไม่ธรรมดา ทำให้โรงแรมแห่งนั้นต้อนรับเขาเข้าทำงานอย่างไม่ลังเล เมื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์จนมีความชำนาญระดับหนึ่งแล้ว เชฟทรงพลก็มีโอกาสได้ร่วมงานกับหลายโรงแรมทั้งในเชียงใหม่และกระบี่ จนกระทั่งได้มาเป็นเชฟอาหารไทยที่อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท จากวันนั้นสู่วันนี้ก็เป็นระยะเวลายาวนานถึง 15 ปีแล้ว
เชฟทรงพลเชี่ยวชาญด้านอาหารไทย และได้เพิ่มความพิเศษให้อาหารไทยของอนันตราฯ โดยการนำอาหารไทยทั้งแบบโบราณและพื้นบ้านมาทำให้โดดเด่นมากขึ้น “อาหารไทยที่นี่จะแปลกจากที่อื่นคือไม่ค่อยขายอาหารแนวตลาด ต้มยำของเราจะเป็นน้ำใส ที่นี่จะไม่มีแกงเผ็ดเป็ดย่าง แต่เราจะมีแกงเขียวหวานเป็ดย่าง ซึ่งเป็นอาหารโบราณซึ่งไม่ค่อยมีคนทำแล้ว หรือจะเป็นแอ็บปลา ต้มแซ่บเนื้อ ซึ่งเป็นอาหารสตรีทธรรมดา แต่ว่าเรายกขึ้นมาให้อยู่ในร้านอาหาร”เขาเล่า
ความโดดเด่นของอาหารไทยที่อนันตราฯคือ การรังสรรค์สูตรพริกแกงให้มีความเป็นสากล โดยยังคงรสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ เหมือนรสมือแม่ที่คุ้นเคย แต่ลดทอนความเผ็ดลง “อาหารไทยแตกออกได้เป็นหลายอย่างแล้วแต่มุมมองของคน พวกเทคนิคหรือจินตนาการ ทุกคนสามารถเอาไปเติมได้ แค่เพียงว่าอย่าทิ้งรสชาติที่มันควรจะเป็นเท่านั้นเอง บางครั้งผมก็หลงทาง พยายามใช้เทคนิคฝรั่ง แต่ใช้มากเกินไปจนเสียรสชาติ ถ้าเรายังอยากจะรักษาอาหารไทยก็คือรักษารสชาติเอาไว้” เขาเสริม
ปลาต้มบ๊วยหม้อไฟ
นอกจากประสบการณ์ที่เชฟทรงพลได้ฝึกฝนการทำอาหารหลายแบบ ทั้งอาหารญี่ปุ่น เวียดนาม ตะวันตก หรือเบเกอรี ทำให้เขาไม่ลืมที่จะงัดกลเม็ดเล็กๆ น้อยๆ ในงานครัวมาพลิกแพลงและผสมผสานให้เข้ากับอาหารไทย ดังจะเห็นได้จากเมนู ‘ปลาต้มบ๊วยหม้อไฟ’ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมนูเด็ดที่พัฒนามาจากปลานึ่งบ๊วยแบบดั้งเดิมให้กลายเป็นต้มยำปลาทับทิมเนื้อแน่น ต้มกับบ๊วย ขิง หอม ข่า และตะไคร้รสชาติแบบไทยๆ และได้กลิ่นหอมของบ๊วยอ่อนๆ สัมผัสแรกที่รู้สึกเมื่อชิมคือรสเปรี้ยวสดชื่นและกลมกล่อมตามมาอย่างลงตัว จัดเสิร์ฟบนหม้อไฟกระดาษทำให้ดูแปลกตากว่าที่เคย นอกจากเมนูนี้ยังมี แกงเนื้อย่างใบชะพลู ปูนิ่มคลุกงา แกงผักบุ้ง แอ็บปลา ฯลฯ ที่ชื่อเมนูล้วนแล้วแต่ฟังดูธรรมดา แต่เมื่อผ่านมือเชฟทรงพลแล้ว จึงกลายเป็นเมนูที่รสชาติไม่ธรรมดา และชวนให้อยากล้อมวงทานข้าวกับญาติสนิทมิตรสหายจริงๆ
แกงเนื้อย่างใบชะพลู 
ปูนิ่มคลุกงา 
แอ็บปลา
The Service 1921 Restaurant & Bar
อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท
123-123/1 ถนนเจริญประเทศ ต.ช้างคลาน อ.เมือง
โทร.053 253 333แฟกซ์: 053 253 352
Email: [email protected]
www.service1921.com