Royal Cuisine: จดหมายจากพ่อถึงลูก และ “บันทึกความหิว” ยามไกลบ้าน

 |  July 13, 2018

Read this article in English

จดหมายจากพ่อถึงลูก

และ “บันทึกความหิว” ยามไกลบ้าน

“…ไข่เจียวอีกอย่างหนึ่งที่เราควรจะทำกินได้เอง คือเจียวข้างล่างสุก อ่อนอย่างไข่เจียวฝรั่ง      แล้วจึงเอาไข่ผสมกับเครื่องปรุง มีหมูแฮมแลเนื้ออะไรเล็ก ๆ      เห็ดหยอดลงไปที่ตรงกลางแล้วพับทันที กดขอบให้ติดกันไม่ให้ไข่ที่กลางนั้นไหล สำเร็จจนไข่เจียว ข้างในเป็นยางมะตูม สำหรับกินเวลาเช้าอร่อย พ่อคิดถึงลูกจึงเล่าเข้ามาให้ฟังเช่นนี้…”

จดหมายฉบับนี้เป็นจดหมายจากพ่อถึงลูกที่เรียบง่ายแต่งดงาม โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายที่ว่า “พ่อคิดถึงลูกจึงเล่าเข้ามาให้ฟังเช่นนี้” นับว่าเป็นสื่อสารความรู้สึกได้อย่างไม่ขัดเขินและกลับกลมกลืนไปกับเรื่องราวของอาหารอย่าง “ไข่เจียวอย่างฝรั่ง” หรือออมเล็ตได้เป็นอย่างดี

แต่จดหมายฉบับนี้ไม่ใช่จดหมายจากพ่อถึงลูกธรรมดาทั่วไป เพราะเป็นบทบันทึกหนึ่งที่ปรากฏในหนังสือพระราชนิพนธ์ไกลบ้าน ผู้เขียนจดหมายฉบับนี้คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชหัตถเลขาฉบับที่ 13 เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม รัตนโกสินทร์ศก 126 ขณะประทับอยู่ ณ เมืองซันเรโม ประเทศอิตาลี เมื่อครั้งเสด็จประพาสประเทศในแถบทวีปยุโรป

ในครั้งนั้นทรงมีพระราชหัตถเลขาฉบับนี้ถึงสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล วิมลประภาวดี กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารี พระราชธิดาองค์ที่ 3 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา ทั้งนี้  สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล ทรงเป็นพระราชธิดาที่ได้ถวายงานใกล้ชิดในฐานะราชเลขานุการิณีในพระองค์ ด้วยเหตุนี้เมื่อครั้งที่สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรปเมื่อปี พ.ศ. 2450 จึงได้มีพระราชหัตถเลขามาถึงเจ้าฟ้าพระองค์นี้

ตลอดระยะเวลาที่เสด็จประพาสยุโรปเป็นเวลา 225 วัน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระราชหัตถเลขาถึงพระราชธิดารวมทั้งหมดจำนวน 43 ฉบับ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชภารกิจในแต่ละวันในการเดินทางผ่านประเทศต่างๆได้แก่ ประเทศสิงคโปร์ อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ เบลเยี่ยม เดนมาร์ก และประเทศนอร์เวย์

ในพระราชหัตถเลขานี้ นอกจากเราจะได้มองเห็นแนวพระราชดำริและพระราชวินิจฉัยส่วนพระองค์ต่อเหตุการณ์ต่าง ๆระหว่างเสด็จประพาสแล้ว ยังมีพระราชหัตถเลขาที่เกี่ยวข้องกับ “อาหาร”ที่สะท้อนให้เห็นว่าครั้งหนึ่งเคยทรง “หิว”มากขนาดที่ทรงพระสุบินถึงไข่เค็ม และอาหารไทยต่างๆ

“พ่อนอนหลับ ๗ ทุ่ม ไปตื่นขึ้นด้วยความหิวได้ความว่า ๑๐ ทุ่มครึ่ง นึกว่าจะแก้ได้ตามเคยคือดื่มน้ำลงไปเสียสัก ๓ อึก จึงได้ดื่ม แล้วนอนสมาธิต่อไปใหม่ ให้เสียว ๆ ในคอ แลเห็นปลากุเราทอดใส่่จานมาอยู่ที่ไนยตา ขับไล่กัน พอจะจางไป ไข่เค็มเปนมันย่องมาโผล่ขึ้นแทน แล้วคราวนี้เจ้าพวกแห้ง ๆ ปลากระบอก หอยหลอด น้ำพริก มาเปนแถว เรียกน้ำชามากินเสียครึ่งถ้วย เปิดไฟฟ้าขึ้นอ่านหนังสือจะให้ลืมพวกผีปลาผีหอยมาหลอก…”

 ลงมือชักม่านดับไฟพยายามจะหลับ ทำไม่มันจึงนึกต่อไปไม่รู้ว่าเขาว่ากันว่าหิวแล้วกินหวาน ๆ ยิ่งหิวมาก  เขากินขนมเสียก่อนจึงกินเข้าก็มี ในกำลังนึกอยู่นั้นเองเข้ากับแกงเผ็ดโผล่ขึ้นมาในไนยตาที่หลับ ๆ ประเดี๋ยวไข่เจียวจิ้มน้ำพริก ประเดี๊ยวทอดมันกุ้ง ปลาแห้ง ผัดอะไรพากันมาล้อหลอกเสียใหญ่ หลับตาไม่ได้ต้องลืม ลืมก็แลเห็นแกงเทโพหลอกได้ทั้งกำลังตื่น ๆ เช่นนั้น จนชั้นยำแตงกวาก็พลอยกำเริบ ดีแต่ปลาร้าขนมจีนน้ำยาฤๅน้ำพริก สงสารไม่ยักมาหลอก มีแต่เจ้ากะปิคั่วมาเมียงอยู่ใกล้ ๆ เห็นจะไม่ได้การสู้มันไม่ไหว เรียกอ้ายฟ้อนไปคลำ ๆ ดู มันมีลูกไม้อะไรอยู่ที่ไหนไม่ว่า ให้เอามาให้กูลูกหนึ่ง อ้ายฟ้อนไปสักครู่หนึ่งกลับมาบอกว่า “มีแต่แอ๊บเป้อด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม” ตอบว่า “แอ๊บเปอลไม่ใช่ลูกไม้ฤๅ เอามาเถอะ” พอได้มาต้องลุกขึ้นนั่ง หั่นเคี้ยวเข้าไปสักครึ่งลูก นึกว่าถ้ากินมากเข้าไปเวลาดึกเห็นจะไม่ดี จึงหยุดกินแต่เท่านั้น

สั่งให้ไปบอกพระราชวรินทร์ เวลาเช้าให้ไปบอกให้กุ๊กในเรือหุงเข้าสำหรับกินเวลาเช้า เพราะนึกว่าถ้าหุงเองคงจะทนช้าไม่ได้ กุ๊กเรือนี้นับว่าหุงเปน เคยไม่ดิบสองคราวมาแล้ว พอสั่งเสร็จล้มตัวลงนอน รู้ว่าผงลูกแอบเปอลตกถึงกระเภาะเท่านั้น ผีสางพวกกุ้งปลาเลยไม่หลอก หลับสนิทดี

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเรือกลางทะเลเมดิเตอเรเนียน ในเวลาที่ทรงคิดถึงอาหารไทยอย่างมาก เนื่องจากการประกอบอาหารไทยในต่างประเทศในเวลานั้นเป็นเรื่องยากลำบาก ประกอบกับอาหารที่มีอยู่ในเวลานั้นไม่เป็นที่ถูกพระทัยนัก จึงได้ทรงนึกถึงอาหารไทยจนมีพระราชหัตถเลขาเรื่อง “บันทึกความหิว กลางคืนวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม เรือพม่าในทะเลเมดิเตอเรเนียน” มีเนื้อความดังที่ได้กล่าวถึงข้างต้นนั่นเอง

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดลได้ทรงรวบรวมและเก็บรักษาพระราชหัตถเลขาไว้เป็นอย่างดีและต่อมาได้มีการกราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตจัดพิมพ์เป็นหนังสือ จึงทรงมีพระบรมราชานุญาตให้จัดพิมพ์ได้ แล้วโปรดเรียกชื่อพระราชหัตถเลขานี้ว่า “ไกลบ้าน” ซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล ได้รับพระราชทานกรรมสิทธิ์ในการจัดพิมพ์ และต่อมาในการพิมพ์ครั้งที่ 3 พระราชนิพนธ์ไกลบ้าน หรือเรียกกันอย่างประสาชาวบ้านว่า “จดหมายจากพ่อถึงลูก” นี้ก็ได้จัดพิมพ์ในโอกาสสำคัญหนึ่งนั่นคือในงานพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้านิภานภดล กรมขุนอู่ทองเขตขัตติยนารีใน พ.ศ. 2479

 “บันทึกความหิว”ยามไกลบ้านที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงบันทึกไว้กลางทะเลเมื่อร้อยกว่าปีก่อนมาแล้ว นอกจากจะสะท้อนความผูกพันระหว่างพ่อ-ลูกแล้ว ยังสะท้อนถึงเสี้ยวหนึ่งในความเป็นมนุษย์ปุถุชนของสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงที่ทรงมีพระราชอารมณ์ขันในแบบของพระองค์เอง

——————————————————————–

ออมเล็ตกับหน่อไม้ฝรั่ง

ออมเล็ตกับหน่อไม้ฝรั่ง เมนูจานนี้ของเราเป็นอาหารเช้าเพื่อสุขภาพ ที่เราตั้งใจรังสรรค์ให้กับกลุ่มคนที่ตื่นแต่เช้ามาออกกำลังกายและมองหาอาหารที่ไม่หนักหรือเบาจนเกินไป ซึ่งเป็นเมนูดังกล่าวเราได้ทำไข่เจียวที่สอดไส้ด้วยมันฝรั่งอบ มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่ ผักโขม หน่อไม้ฝรั่ง และชีสเชดด้าผสมชีสมอสซาเรลล่า ก่อนเสิร์ฟจะววางหน่อไม้ฝรั่งย่างบนออมเล็ตอีกที เคียงคู่กับสลัดผักสดต่างๆSmoothie Blues (สาขานิมมานเหมินทร์ โทร.053 278 455 และ สาขาประตูท่าแพ โทร. 053 227 038)