Citylife Garden Fair 2017
ศูนย์รวมความอร่อย และน้ำใจของชาวเชียงใหม่
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก เมื่อนึกย้อนไป 10 กว่าปีที่ผ่านมา Citylife พร้อมเพื่อนพี่น้อง และพันธมิตรได้ช่วยกันจัดงาน Citylife Garden Fair ครั้งแรกในสวนขนาดย่อมเล็กๆหลังออฟฟิศของพวกเรา เพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิเมื่อปี พ.ศ. 2547 ซึ่งเป็นปีที่ภัยธรรมชาติได้สร้างความเสียหายครั้งใหญ่แก่ประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านของเรา
ปัจจุบัน Citylife Garden Fair 2017 ได้รับการสนับสนุนเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ปีนี้เราได้จัดงานมาเป็นปีที่ 11 แล้ว ในวันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา มีบูทอาหารถึง 150 บูท Food Truck อีก 5 คัน และร้านค้าอื่นๆ อีก 70 กว่าร้าน และสำหรับแฟนคลับ Spoon&Fork คงต้องบอกว่าไม่ผิดหวังที่ได้มาร่วมงาน Citylife Garden Fair 2017 ครั้งนี้ เพราะมีกองทัพอาหารมากมายจากโรงแรมระดับ 5 ดาว ร้านอาหาร และร้านเบเกอรี่ชั้นนำ มาช่วยกันรังสรรค์เมนูต่างๆ ให้เหล่าคนรักการเสพของอร่อยมาเลือกลิ้มลองกันอย่างไม่อั้น
ทีมงาน Citylife และ Spoon&Fork ลงพื้นที่ในงาน Citylife Garden Fair 2017 พร้อมสัมภาษณ์ตัวแทนจากโรงแรม ร้านอาหาร และเบเกอรี่ว่าพวกเขามีของดีของเด็ดอะไรมาโชว์กันในงานกันบ้าง
เริ่มต้นกันที่มุมอาหารอินเดียจากร้าน Accha Fuions India Food เหล่าเชฟและทีมงานได้จัดเตรียมอาหารบุฟเฟต์อินเดีย เพียบพร้อมไปด้วยวัตถุดิบของแท้และรสชาติดั้งเดิมจากอินเดียมาเสิร์ฟให้เลือกรับประทานกันอย่างไม่อั้น เขยิบถัดไปเป็นบูธขายกล้วยปิ้งขนาดเล็กที่มีการตกแต่งร้านด้วยสไตล์ที่มีเอกลักษณ์ แถมยังเข้าคู่กับคอนเซ็ปท์เสื้อผ้าคนขายได้อย่างเหมาะเจาะ ในชื่อร้าน Ama Homemade&Handmade ส่วนชาวมังสวิรัติ ก็ได้แวะฝากท้องกับร้าน Monday Moon เพราะในงานการกุศลครั้งนี้มีเมนูเด็ดคือผัดไทยมังสวิรัติกับข้าวซอยไข่ออนเซ็นมังสวิรัติ รสชาติต้นตำรับของครอบครัวมาเสิร์ฟให้ชิมกัน นอกจากนี้ ปิ่นโตฟู้ด อุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูปของเชียงใหม่ ยังได้นำผลิตภัณฑ์ของบริษัทมาปรุงรสกันแบบสดๆร้อนๆ พร้อมเสิร์ฟคู่กับซอสและน้ำจิ้มรสต่างๆ ส่วน Hard Rock Cafe ร้านอาหารสไตล์อเมริกันแบรนด์ดังของโลก มาขายนาโชส์ หรือแผ่นข้าวโพดกรอบโรยชีส พร้อมกับขนมซิกเนเจอร์ของร้านเป็นบราวนี่เนื้อชุ่มฉ่ำ และอีกมุมหนึ่งภายในงานการกุศล ภัตตาคารฝรั่งเศสอาหารเลอ คริสตัล ได้เปิดเตาปิ้งย่างขนาดใหญ่กลางงาน เอาใจคนรักบาร์บีคิวให้มาลิ้มลองรสชาติ
นอกจากเมนูอาหารจากร้านอาหารชั้นนำแล้ว แขกที่มาในงานการกุศลปีนี้ ยังได้รสลิ้มอาหารที่มีคุณภาพจากโรงแรมระดับ 5 ดาวของเชียงใหม่ในราคาประหยัดสบายกระเป๋าอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ ที่มาพร้อมกับธีมอาหารแม็กซิกัน และป๊อปคอร์นร้อนๆที่ผ่านการปรุงรสกันแบบสดใหม่ โรงแรมแชงกรี–ล่า ขายเครื่องดื่มโมฮิโต้หลากรส ซึ่งเหมาะกับการรับประคู่กับเมนูเด็ดของโรงแรม อาทิ พายหมูแดง หรือเมนูที่ทำขึ้นเฉพาะช่วงเทศกาลอย่างสวีทบันเสิร์ฟคู่กับครีม และโดนัทสอดใส้สตรอว์เบอร์รี่ เยื้องมาเล็กน้อยก็จะได้อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นบ้านของชาวสเปน ซึ่งรังสรรค์ฝีมือโดยเชฟจาก โรงแรมโฟร์ซีซั่น กับเมนูที่มีชื่อว่า paella ต่อด้วยเมนูติ่มซำร้อนๆชิ้นโตๆจาก ห้องอาหารจัสมิน โรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส เชียงใหม่ หรือจะเลือกอิ่มแบบเบาๆท้องในเมนูมินิเบอร์เกอร์ขนาดพอดีคำ คู่กับเครื่องดื่มเย็นๆที่บูธ โรงแรมดุสิต ดีทูก็ได้เช่นกัน
เขยิบมาเกือบด้านหน้าของเวที พบกับบูธของ โรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ ซึ่งกำลังจำหน่ายเมนูอาหารไทยอย่างเช่นผัดขี้เมา ตามด้วยซิกเนเจอร์ของหวานนานาชนิด และวอชเชอร์ซันเดย์บรั๊นซ์สุดหรูของโรงแรมสำหรับคนที่สนใจอาหารช่วงมื้อสายของทุกวันอาทิตย์ ส่วนบูธ อนันตรา รีสอร์ท เชียงใหม่ ก็ได้จัดเมนูอาหารสัญชาติเปรูมาให้ลิ้มลองควบคู่กับการจิบค๊อกเทลสุดเก๋ของโรงแรม ตบท้ายสลัดออร์แกนิค และแพคเกจเพื่อสุขภาพต่างๆจาก เดอะ ภาวนา เชียงใหม่ รีสอร์ท
จากบูธอาหารตั้งโต๊ะใต้ร่มเงาไม้ สู่อาหารติดล้อในโซน Food Truck คราวนี้พวกเราได้ยกขบวนความอร่อยมาถึง 5 คัน ประกอบด้วย พิซซ่าบางกรอบติดล้อจาก ilgusto เบอร์เกอร์สุดอร่อยจาก Burger Box และเมนูเบอร์เกอร์อิ่มท้องสไตล์โฮมเมดของ Solhy ผัดไทยสุดแนวจาก Padthai Mustache style (หรือในชื่อไทย: ผัดไท สไตล์นายหนวด) และเบเกอรี่หวานๆ รับประทานพร้อมกับกาแฟรสเข้มข้นจาก เดอะขัวมุง
เสร็จจากมื้อหนัก ก็ต้องเผื่อท้องไว้สำหรับเมนูของหวานตบท้ายเสมอ ด้วยกองทัพขนมไทยจากร้านหวานพอดี ต่อด้วยคุกกี้น่ารักสไตล์ตะวันตกที่นิยมนำมารับประทานคู่กับกาแฟร้อนๆ หรือน้ำชายามบ่ายจาก italian cookies สำหรับผู้มีใจรักเค้กโฮมเมดต้องแวะร้าน Dinki Cake, Melted Away Bakery และ Lanna Patisserie นอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่ายเครื่องดื่มต่างๆมาร่วมงานของพวกเราอีกด้วย อาทิ ผลิตภัณฑ์ไวน์นำเข้าจากออสเตรเลีย นำเสนอโดย Wine Cellar by TK interfood และน้ำปั่นเพื่อสุขภาพ พลังรถถีบจาก Twister Bike Blender
ยังมีอีกหลายร้านที่ทีมงานไม่สามารถเอ่ยถึงได้หมดในบทความนี้ อย่างไรก็ตามทีมงาน Citylife และ Spoon&Fork ขอขอบพระคุณจากใจที่ทุกท่านได้มาเป็นส่วนหนึ่งของงานการกุศลในครั้งนี้ รายได้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากการร่วมแรง ร่วมน้ำใจ ได้มอบให้หน่วยงานการศุกลตามเจตนารมณ์ครั้งแรกที่พวกเราได้เริ่มทำงานนี้ แล้วเจอกันครั้งใหม่ในปีหน้ากับ Citylife Garden Fair ครั้งที่ 12
