Spice Garden | พื้นที่แห่งอาหาร ศิลปะ และดนตรี ใจกลางเมืองเชียงใหม่

 |  November 1, 2019

Read this article in English

ถนนเคนซิงตันในเมืองซิดนีย์ เป็นพื้นที่แห่งความคึกคักที่คอยแต่งแต้มสีสันให้แก่เมืองและผู้คน ด้วยศิลปะ ดนตรี และอาหาร อีกทั้งยังทำหน้าที่ต้อนรับผู้มาเยือนมากกว่า 3,000 คนในแต่ละวัน ถนนสายนี้ทอดยาวไปสู่ร้านอาหารกว่า 20 ร้านที่มอบประสบการณ์การกินดื่มด้วยอาหารหลากรสชาติจากหลากหลายวัฒนธรรม ทั้งไทย จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง อินเดีย เกาหลี ญี่ปุ่น ที่มาในรูปแบบของร้านเล็กๆ ริมถนนแบบสตรีทฟู้ด ไปจนถึงระดับ Fine Dining ที่รังสรรค์เมนูโดยเชฟมือรางวัล

การใช้ชีวิตของชาวเชียงใหม่จะมีสีสันมากยิ่งขึ้น เมื่อ Dr. Stanley Quek นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และร้านอาหารนานาชาติชาวสิงคโปร์ ได้เนรมิตพื้นที่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ให้กลายเป็นสถานที่ของการพักผ่อน ภายใต้ชื่อ Spice Garden ที่ได้นำนวัตกรรมการกินดื่มผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของวิถีความเป็นเชียงใหม่ ผ่านการออกแบบที่ผสมผสานความงามในแบบล้านนากับการออกแบบสมัยใหม่ได้อย่างกลมกลืน ตลอดจนเมนูอาหารที่มอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้แก่นักชิมด้วยรสชาติและการนำเสนอที่ออกแบบขึ้นมาใหม่จากฝีมือของเชฟทิว รัชชานนท์ รากะรินทร์ หนุ่มชาวเหนือกับประสบการณ์ในครัวอันโชกโชนในต่างแดน ที่คราวนี้เขาได้พกเอาฝีมือ และความชำนาญในการทำอาหาร มาสรรสร้างสารพัดเมนูเลิศรสให้เหล่านักชิมได้ลิ้มลองกันที่ Spice Garden แห่งนี้

ต้นแบบความอร่อยที่ไม่มีสูตรสำเร็จในรสชาติ

 “ผมไม่มีสูตรอาหาร เพราะไม่รู้จะเขียนออกมายังไง สิ่งที่ผมสอนคนในครัวคือให้ลงมือปฏิบัติเองด้วยของสดใหม่ทุกวัน ไม่จำเป็นต้องมีสูตรตายตัว แต่สร้างประสบการณ์ใหม่ไปด้วยกันกับผู้ที่มารับประทานอาหารของเรา”

ทิว รัชชานนท์ รากะรินทร์ บอกถึงสิ่งที่เขายึดมั่นในการทำอาหารอย่างตรงไปตรงมา เชฟหนุ่มผู้นี้คือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง คอยสร้างสรรค์อาหารทุกจาน พร้อมทั้งได้ถ่ายทอดเทคนิคและแนวคิดให้กับพนักงานในครัวของ Spice Garden

เขาเกิดและเติบโตในจังหวัดเชียงราย แม้ชีวิตวัยเด็กดูจะห่างไกลจากชีวิตการเป็นเชฟ แต่เส้นทางอาชีพในครัวของเขาได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่เรียนจบมหาวิทยาลัย แล้วได้เดินทางไปเรียนภาษาที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ที่นั่นเขาหารายได้พิเศษจากการเป็นเด็กล้างจานในร้านอาหาร จากนั้นก็ไปเป็นคนทำความสะอาดในครัวให้ร้านอาหารอีกร้านหนึ่ง และนั่นทำให้เขาได้จับพลัดจับผลูในการเข้าครัวทำอาหาร เขาจึงเริ่มฝึกทำอาหารด้วยตัวเองจาก YouTube โดยเริ่มจากเมนูง่ายๆ และฝึกฝนมาเรื่อยๆ จนมีโอกาสไปเป็นเชฟในร้านอาหารไทยที่เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา จากคำชวนของลูกค้าที่ติดใจในฝีมือของเขา

เชฟทิว รัชชานนท์ รากะรินทร์ (Tiw Rakarin)

หลังจากที่ใช้ชีวิตในอเมริกาประมาณ 5 ปี เชฟทิวตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทยสักพักหนึ่ง และเขาได้เดินทางต่อไปยังลอนดอน ตระเวนหาประสบการณ์ในร้านอาหาร เป็นเวลา 1 ปี และตัดสินใจกลับเมืองซิดนีย์เป็นเชฟให้แก่ร้านอาหารไทย พร้อมทั้งได้เรียนทำอาหารเอเชีย ยุโรป และเรียนทำขนมที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ประกอบกับเรียนรู้ สะสมเทคนิคด้วยตัวเอง ทั้งจากการอ่านหนังสือ ย้ายไปทำงานในร้านอาหารต่างๆ เพื่อพัฒนาฝีมือ และเพิ่มพูนความรู้ในวัตถุดิบรวมทั้งศึกษาเมนูจากหลายๆ ประเทศ ทั้งอาหารจีน ญี่ปุ่น และตะวันตก

ทั้งหมดนี้เพื่อค้นหาและเติมเต็มทักษะที่เขาขาด และเพื่อผลักดันตัวเองให้ไปถึงระดับ Executive Chef เมื่อได้รับการเติมเต็มจนครบ เชฟทิวที่ขณะนั้นอยู่ในฐานะ Head Chef ของร้านอาหารเวียดนามในเมืองเมลเบิร์น เขาได้พบกับ Dr. Stanley Quek ผู้ที่ชักชวนเขาให้มาสร้างสรรค์เมนูอาหารที่ร้านอาหารแม่โขงแห่งเมืองซิดนีย์ และนั่นถือเป็นจุดเริ่มต้น สู่ Spice Garden เชียงใหม่

รสชาติที่ผสานวัฒนธรรมริมฝั่งโขง

หนึ่งในร้านอาหารบนถนนเคนซิงตัน ในเมืองซิดนีย์ กับรางวัลการันตีร้านอาหารเอเชียอันดับหนึ่งแห่งเมืองซิดนีย์ อันดับที่สามของประเทศออสเตรเลีย ร้านอาหารแม่โขงตัดสินใจกระโจนข้ามโลก ก้าวออกไปเปิดสาขาใหม่ที่ Spice Garden เชียงใหม่ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่มาพร้อมกับความตั้งใจที่จะส่งต่อรสชาติและแนวคิดของอาหารที่ผสมผสานเรื่องราวทางวัฒนธรรมริมฝั่งโขงเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งเวียดนาม กัมพูชา ลาว พม่า และไทย

“คอนเซ็ปต์อาหารของร้านแม่โขงไม่เหมือนร้านอาหารไทยร้านอื่น เราครีเอทเมนูขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เป็นอาหารจานต้นแบบที่น่าจดจำ แต่ละจานจะเน้นไปในทางที่ให้คนทานได้คิดเอาเอง เป็นอาหารเอเชียก็ไม่ใช่ ฝรั่งก็ไม่เชิง อย่างการนำกระบวนการของฝรั่งเศสมาทำอาหารเอเชีย เราจะไม่เปลี่ยนวัตถุดิบ แต่จะเติมเทคนิคการทำอาหาร ที่ส่วนมากใช้วิธีโขลก ตำ ย่าง ไม่มีกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย และยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของรสชาติ” เชฟทิว เอ่ยปากเล่าถึงอาหารที่เขาสร้างสรรค์อย่างออกรส

“เวลาที่ผมจะทำแต่ละเมนู ผมจะศึกษาประวัติของแต่ละเมือง ดูว่าต้นกำเนิดของแต่ละประเทศมีเรื่องราว ความเป็นมายังไง อย่างการใช้ผักสีทองเพื่อสื่อถึงประเทศพม่า ใช้ส่วนผสมที่มีสีดำอย่างหมึกของปลาหมึกที่บอกถึงสงครามเวียดนาม เป็นการเอาสีมาประกอบขึ้นเป็นเมนู ซึ่งจะเป็นกระบวนการคิดที่แตกต่างจากที่อื่น ไม่จำเป็นต้องมีสูตรตายตัวแต่สร้างประสบการณ์ใหม่ไปด้วยกันกับผู้ที่มารับประทานอาหารของเรา”

3 เมนูไม่มีสูตรลับ ในแบบฉบับของแม่โขง

Spice Balls with Mango Puree

แหนมข้าวทอดที่ผสมผสานกับน้ำพริกแกงแดง ท็อปด้วยพริกหม่าล่าที่เสิร์ฟมาในรูปทรงตาข่ายบางกรอบ (tuile) รสจัดจ้านแบบพอดี ตัดรสหวานทานสดชื่นกับมะม่วงเพียวเร่ จานนี้เชฟทิวบอกว่าเขาได้ผสมผสานวัฒนธรรม ลาว พม่า ไทย จีน รวมไว้ด้วยกัน

Roasted Chili on Squid Ink

ปลาดุกสับคลุกเคล้ากับน้ำพริกหนุ่ม เสิร์ฟมาบนสาคูกรอบทำให้แห้ง เอามาทอด เสริมรสด้วยหมึกปลาหมึก เป็เมนูลาบที่ไม่มีพริกลาบเป็นส่วนผสม เมื่อทานแล้วหอมเครื่องเทศ เพราะส่วนผสมที่สงตัว

 

Fried Pork Hock with Sweet YuZu and Green Apple Salad

ขาหมูต้มที่ลอกกระดูกออกแล้วตัดเป็นสี่เหลี่ยม เอาไปทอดกับแป้งมันสำปะหลัง เคี้ยวกรุบกรอบ เนื้อนุ่มละลายในปาก แถมยังได้รสชาติความหอมหวานจากน้ำส้มยูสุ

Spice Garden

พื้นที่เสิร์ฟงานศิลปะผ่านจานอาหาร

“อาหารและเครื่องดื่มเปรียบดั่งศิลปะ ผมเป็นคนที่ชื่นชอบศิลปะ และอยากจะนำเสนออาหารที่ประกอบทั้งศิลปะและรสชาติเข้าไว้ด้วยกัน เป็นอาหารจานสวยที่อยากให้ทุกคนได้ลิ้มรส” Dr. Stanley Quek เล่าให้เราฟังถึงความตั้งใจ

“เหตุผลที่ผมเลือกเชียงใหม่ก็เพราะว่าเชฟทิวมีพื้นเพในภาคเหนือ เขาช่วยจัดการร้านอาหารในซิดนีย์ ประกอบกับการช่วยสอนงานในครัว ซึ่งเป็นการให้โอกาสคนไทยที่สนใจในด้านอาหารได้ไปศึกษาทางด้านนี้โดยเฉพาะเป็นเวลา 2 ปี ที่ประเทศออสเตรเลีย และยังได้เรียนรู้เทคนิคการทำอาหารของร้าน The Kitchen at Spice Garden และแม่โขง จากเชฟทิว ซึ่งเป็นอาหารนานาชาติได้ฝึกฝนการทำอาหารของหลายประเทศ เป็นการมอบประสบการณ์ และเป็นการช่วยเหลือคนในพื้นที่”

Dr. Stanley Quek

Dr. Stanley Quek อธิบายเพิ่มว่า Spice Garden เป็นสิ่งที่เขาตั้งใจมอบให้ชาวเชียงใหม่ ด้วยการนำเอานวัตกรรมมาใส่ในจานอาหาร สร้างความแตกต่างด้วยภาพลักษณ์ที่น่าตื่นตา และเลือกใช้วัตถุดิบปลอดสาร เพราะเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีผลผลิตทางการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ ชื่อของ Spice Garden จึงมาจากการที่พื้นที่แห่งนี้ปลูกพืชสมุนไพรแบบปลอดสาร ทั้งพริก ขิง ข่า ซึ่งจะนำมาใช้ในการประกอบรสชาติให้แก่อาหารในแบบฉบับที่คนในท้องถิ่นยังไม่เคยทาน

ไม่ใช่แค่นวัตกรรมแห่งอาหารและเครื่องดื่ม Spice Garden ยังเป็นพื้นที่ที่เชื่อมโยงระหว่างศิลปะ, อาหาร, ดนตรี, ศิลปะการแสดง เข้ากับชุมชนท้องถิ่น เป็นสถานที่ที่ให้ทุกคนสามารถเข้าถึง และเพลิดเพลินในบรรยากาศอันรื่นรมย์ ทั้งในร่มและกลางแจ้ง

Spice Garden เป็นพื้นที่สีเขียวในย่านเมืองเก่า ที่ประกอบด้วยร้านอาหาร, บาร์, และโรงแรมบูติกจำนวน 16 ห้อง

The Kitchen at Spice Garden

เพลิดเพลินกับสารพัดเมนู สดใหม่จากครัวเปิดที่เผยให้เราได้เห็นทุกขั้นตอนการประกอบอาหารในครัว อาหารของ The Kitchen at Spice Garden เป็นการมอบรสชาติที่รังสรรค์ขึ้นมาใหม่ให้แก่นักชิม อย่างเมนู Tonkatsu with Curry ที่นำเนื้อหมูทอดมาชุปแป้งและชุปไข่ ราดด้วยซอสแกงกระหรี่ของญี่ปุ่น ท็อปด้วยหัวไชเท้า, Singapore Chili Soft Shell Crab ปูนิ่มทอดราดซอส สไตล์สิงคโปร์ รสเผ็ดกลมกล่อมกำลังดี, Char Kway Teow (ฉ่าก๋วยเตี๋ยว) ก๋วยเตี๋ยวผัดสไตล์มาเลเซีย เป็นก๋วยเตี๋ยวแห้งปรุงรสด้วยซีอิ๊ว พร้อมทั้งใส่พริก กุ้ง ถั่วงอก ต้นหอม และไข่, Tagliatelle Pasta Beef Ragu พาสต้าสดเส้นแบน ราดด้วยซอสเนื้อ Bolognese เป็นอีกเมนูอร่อยที่ตองลอง

ร้านอาหารแม่โขง

ร้านอาหารแม่โขงในเมืองซิดนีย์ ดูแลโดยเชฟทิว ที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของการนำนวัตกรรมความสร้างสรรค์ใส่ลงไปในแต่ละจาน รสชาติของเมนูอาจมีความแตกต่างจากที่ซิดนีย์ แต่อยู่ภายใต้แนวคิดเดียวกัน ที่ได้หยิบจับเอาวัฒนธรรมประเทศริมฝั่งโขงมารวมไว้ด้วยกัน ทั้งใส่กลิ่นอายอาหารฝรั่งเศสเข้าไปในแต่ละจาน สะท้อนอิทธิพลจากประเทศฝรั่งเศสต่ออินโดจีนในยุคโคโลเนียล

Brasserie and Bar

หอมหวานกับเบเกอรี่หลากรส พลางจิบชาร้อนๆ ยามบ่าย เพลิดเพลินกับเมนูเบาๆ ทานเพลิน อย่างแพนเค้ก สลัด เท็มปุระสไตล์ญี่ปุ่น

Spice Bar

บาร์เครื่องดื่ม ที่เสิร์ฟทั้งม็อกเทล ค็อกเทลรสชาติสุดพิเศษดื่มสดชื่น ทั้งยังมีเหล้าไทย ที่ให้ได้นั่งจิบกันในบรรยากาศสบายๆ คลอเคล้าด้วยเสียงดนตรีสด

กาลเวลาและโลกาภิวัตน์เปลี่ยนเชียงใหม่ให้เติบโตจากเมืองที่มีแต่อาหารท้องถิ่น ให้กลายเป็นแหล่งรวมอาหารรสชาติแปลกใหม่ แม้ Spice Garden จะนำเอานวัตกรรมล้ำสมัยใส่ลงไปในจานอาหาร ทว่ายังใส่กลิ่นอายความเป็นล้านนาเข้าไปในสถาปัตยกรรม ที่เติมชีวิตชีวาให้แก่ย่านเมืองเก่าได้อย่างร่วมสมัยและกลมกลืน

Spice Garden จะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ โปรดเตรียมตัวลิ้มรสอาหารและเครื่องดื่มสุดพิเศษ และกิจกรรมอันน่าตื่นตาภายในงาน

Spice Garden

12 ซอย 5 ถ.มูลเมือง ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

Facebook: Spice Garden

www.spicegarden.co.th