Royal Cuisine: จากยุคกษัตริย์ “เสวยจุ” สู่พระราชินีผู้ทรง “รักษาสุขภาพ” สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2

 |  August 15, 2017

จากยุคกษัตริย์ “เสวยจุ” สู่พระราชินีผู้ทรง “รักษาสุขภาพ”

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2

ก่อนที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะขึ้นครองราชย์ กษัตริย์อังกฤษหลายพระองค์ก่อนหน้านั้นล้วนแล้วแต่ทรงโปรดการเสวยพระกระยาหารด้วยกันทั้งสิ้น ที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็นพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ปู่ทวดของพระองค์ที่ได้ชื่อว่าเป็น “กษัตริย์เสวยจุ”

พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ทรงโปรดเสวยพระกระยาหารคราวละมากๆตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ว่ากันว่าเมื่อเสวยราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แล้ว โปรดเสวยพระกระยาหารเช้า 5 อย่าง พระกระยาหารกลางวัน 10 อย่าง และพระกระยาหารค่ำ 12 อย่าง นับว่าเป็นงานหนักของห้องเครื่องในราชสำนักอังกฤษเลยทีเดียว

ต่อจากพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 พระเจ้าจอร์จที่ 5 พระราชโอรสของพระองค์ และพระเจ้าจอร์จที่ 6 พระราชนัดดา ผู้ทรงเป็นพระชนกของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ก็ทรงโปรดเรื่องการเสวยพระกระยาหารมื้อละมากๆเช่นเดียวกัน ห้องเครื่องของราชสำนักอังกฤษจึงต้องถวายงานอย่างหนักเป็นเวลายาวนานหลายสิบปี

แต่เมื่อมาสู่ยุคของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งขึ้นครองราชย์ต่อจากพระราชบิดาพระองค์กลับไม่ทรงโปรดที่จะเสวยครั้งละมากๆอย่างนั้น เพราะได้รับการปลูกฝังจากพระราชมารดาในเรื่องโภชนาการที่ดีมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ทรงได้รับการปลูกฝังว่าหากปล่อยให้พระวรกายสมบูรณ์เกินไป จะไม่เป็นผลดีต่อพระพลานามัยในการปฏิบัติพระราชภารกิจในฐานะพระราชินีอังกฤษ และจะไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของพระองค์อีกด้วย

เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์ใหม่ๆ นั้น ทรงดูแลพระวรกายอย่างดี และทรงระมัดระวังเรื่องอาหารอย่างมาก เครื่องเสวยของพระองค์จึงเป็นอาหารที่ไม่มีไขมัน ไม่โปรดเสวยพระกระยาหารมากในหนึ่งมื้อ ซึ่งข้าราชบริพารผู้หนึ่งได้เล่าว่า

“…หากไม่เสด็จที่ไหนและเสวยมื้อกลางวันที่พระตำหนักก็จะมีแต่แฮมเนื้อสักชิ้นกับมะเขือเทศผลหนึ่งและไม่มีขนมปัง เพราะทรงเชื่อว่า ขนมปังขาวเป็นตัวเพิ่มน้ำหนักดีนัก

ถึงเวลาพระสุธารส จะทรงดื่มชาจีนเปล่าๆที่ไม่ต้องผสมน้ำตาลหรือนม ส่วนบิสกิต หรือเค้กนั้นไม่ทรงแตะต้อง ทรงระมัดระวังในเรื่องมันฝรั่ง สัปดาห์หนึ่งจะเสวยมันต้มฝรั่งเพียง 2-3 หัวเท่านั้น ส่วนเนื้อแกะหรือเนื้อวัวที่ย่างหรืออบ จะต้องใช้เพียงเนื้อตะโพกที่ไม่ติดมันเลย และนานๆจึงจะมีเนื้อสันที่ชำแหละเอามันออกหมดมาย่างหรืออบบ้าง

 ผักจำพวกบรรจุกระป๋อง หรืออัดแห้งทุกชนิด ไม่เคยเสวยเลย พระกระยาหารมื้อค่ำมักจบลงด้วยสปันจ์พุดดิ้งเบาๆ ชิ้นหนึ่งซึ่งแต่งรสด้วยผลไม้สดหรือเนยแข็ง สำหรับพวกเนยแข็งนี้ ทรงหลีกเลี่ยงไม่ใช้ชนิดของภาคพื้นยุโรปซึ่งเข้มข้นด้วยครีมและไขมันแต่จะทรงใช้เนยแข็งอังกฤษล้วนๆ เช่นเว็นสลีย์เดล

น้ำซอสต่างๆไม่ค่อยได้ใช้ปรุงรสพระกระยาหาร นอกจากบางครั้งที่เสวยปลานึ่งซึ่งมีซอสเนยแข็ง หรือซอสผักชีล้อมราดหน้ามาด้วย พระองค์ท่านโปรดปรานปลาพันธุ์พื้นๆ เช่น ปลาค้อด หรือปลาแฮดดัคตมากกว่าปลาราคาแพงอย่างแฮลิบัทหรือเทอร์บอท และนานๆก็จะเสวยปลาเทราท์สักครั้ง

ทรงดื่มน้อยที่สุด มื้อกลางวันไม่เคยทรงดื่มเลย ส่วนมื้อค่ำนั้นจะทรงดื่มดรายมาร์ตินีก่อนเสวยเป็นประจำ แล้วระหว่างเสวยก็จะทรงดื่มไวน์ขาวหรือไวน์แดงสักแก้ว แต่จะทรงเว้นไม่ดื่มสุรา ประเภทจิบหลังอาหาร”

อาหารคาวที่ทรงโปรดมากคือ ปลา บ่อยครั้งที่เมนูปลากับซอสเนยแข็งจะได้ขึ้นโต๊ะเสวยอยู่เป็นประจำ และทรงโปรดสเต็กเนื้อสันในเสิร์ฟคู่กับเห็ดและซอสวิสกี้ และ สเต็กเนื้อกวาง  นอกจากนี้ยังโปรดซอสครีม แต่หลายครั้งทรงงดเว้นเพราะเป็นอาหารเพิ่มน้ำหนัก ส่วนของหวานนั้น เมนูทรงโปรดคือ ช็อคโกแลต โดยเฉพาะช็อคโกแล็ต บิสกิต เค้ก ช็อคโกแล็ต มูส  แต่จะเสวยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทรงโปรดผลไม้ เช่น มะม่วง สตอร์เบอรี่ ลูกพีชซึ่งปลูกในพระราชวังวินด์เซอร์

นี่คือวินัยในการเสวยพระกระยาหารของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2  ที่ทรงปฏิบัติมาตลอดและปรากฏว่าส่งผลดีอย่างยิ่งต่อพระพลานามัยจนถึงปัจจุบัน ปีนี้สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 มีพระชนมพรรษา 91 พรรษาแล้ว แต่มีพระพลานามัยแข็งแรง และทรงควบคุมน้ำหนักได้ตามที่ต้องการ ด้วยกฎเหล็กข้อสำคัญที่ว่า

“งดคาร์โบไฮเดรตมื้อเย็น”

นอกจากจะทรงระมัดระวังเรื่องอาหารแล้ว ยังทรงออกกำลังกายด้วยการขี่ม้าและเดินเร็ว อีกทั้งยังทรงพักผ่อนอย่างเพียงพอด้วยการบรรทมวันละ ๗ ชั่วโมง กล่าวได้ว่าเป็นพระราชินีที่ทรงรักษาสุขภาพอย่างเคร่งครัด และวินัยในเรื่องอาหารที่ได้ทรงปฏิบัติมาตลอดนั้นก็คุ้มค่า ทำให้ทรงเป็น “กุหลาบอังกฤษ”ที่สง่างามในทุกช่วงวัยของพระองค์ด้วยเหตุนี้นั่นเอง

In this month’s Royal Cuisine, we shift our focus from the Thai Royal family’s dining habits, to Britain’s, and talk about Queen Elizabeth II’s lifelong healthy diet. One of Her Majesty’s favourite dishes is a classic beef tenderloin and Chef Rewat from Steak of the Day has kindly it for you to drool over!

——————————————————————–

สเต็กเนื้อเทนเดอร์ลอยด์ (Beef Tenderloin)

               คำว่า เทนเดอร์คือลักษณะพิเศษที่บ่งบอกถึงความนุ่มของเนื้อ เราจึงเลือกเนื้อสดที่เพิ่งแล่มาใหม่มาปรุง เพื่อให้ได้รสชาติที่สดใหม่ และมีความหอมนุ่มในแบบของเนื้อเทนเดอร์ลอยด์อย่างแท้จริง จัดเสิร์ฟพร้อมกับเห็ดรวมมิตร อันประกอบไปด้วย เห็ดป่า เห็ดหอม และเห็ดฟาง โดยจะเอามาสับหรือบดผสมกันเพื่อให้ได้รสสัมผัสที่หลากหลายขณะรับประทาน

            เมนูสเต็กเนื้อจานนี้เสิร์ฟออกมาอย่างเรียบง่าย จัดวางคู่กับมันฝรั่งย่าง และตบท้ายด้วยของหวานเรียบง่ายเช่นกันเป็นช็อคโกแลตมูส เช่นเดียวกับเมนูที่พระราชินีเอลิซาเบธแห่งอังกฤษทรงโปรดปราน คุณเรวัตน์ ศรีลาชัย เจ้าของร้าน Steak of the Day

“Tender is the operative word here and the focus of the dish,” explained Chef Rewat. “We pick the tenderest cuts and use precise seasoning to enhance its freshness. I serve it here with mixed seasonal mushrooms, which either chop or mash for maximum textures.”

“I serve this simple dish with grilled potatoes and suggest you end the meal with one of Her Majesty’s favourite desserts, the chocolate mousse.”