Read this article in English
SHABUGU
เปิดประสบการณ์โลกที่ 3 แห่งชาบูชาบู
ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่าน คนไทยเรียนรู้อาหารญี่ปุ่นมากขึ้น และพร้อมพาตัวเองเข้าไปท้าทายความอร่อยใหม่ๆ ที่ต้องได้ชิมสักครั้งในชีวิต… แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน คนเชียงใหม่เพิ่งได้รู้จักวัฒนธรรมชาบูชาบูจากญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกจากร้านชาบูล็อคเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในโครงการรูมหลังบิ๊กซีเอ็กตร้า มีชื่อเรียกติดปากกันว่า Shabugu
และนี่คือบันทึกฉบับสำคัญตลอด 10 ปี ของร้านชาบูชาบูเจ้าแรกของภาคเหนือ ที่คุณต้องนึกถึง Shabugu เป็นอันดับแรก เมื่อมาเยือนเชียงใหม่
“ความเป็นอาหารที่ดีต่อใจและร่างกาย คือ แก่นสำคัญของความอร่อยที่เรียกว่า ‘ชาบู’ การเห็นเนื้อสีแดงสดใหม่ มาแกว่งในน้ำร้อนระอุและค่อยๆสุก ชวนให้รู้สึกเพลิดเพลินขณะรอรับประทาน และยังเป็นอาหารที่ต้องอาศัยวิธีการต้มในน้ำเดือด พรั่งพร้อมไปด้วยวัตถุดิบคุณภาพดี มีให้เลือกมากมาย จึงเป็นทางเลือกการกินที่ลดความเสี่ยงต่อโรคภัยต่างๆ ดีต่อสุขภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้รับประทาน” ปฐพงค์ อักษรวนิช (คุณกัน) พร้อมด้วยคู่ชีวิต ภัครดา ปรีชาดิลกกุล (คุณหนิง) สองเจ้าของกิจการและผู้บริหารแห่ง Shabugu กล่าว
หลังจากที่ตัดสินใจยกเลิกธุรกิจขนมหวาน มาเป็นหม้อไฟร้อนญี่ปุ่น คุณกันได้เดินทางไปศึกษาวิถีแห่งชาบูที่ประเทศญี่ปุ่น แล้วนำมาเปิดเป็นร้านชาบู Shabugu ที่เชียงใหม่ บริการในรูปแบบ a la carte เมื่อปี พ.ศ. 2550 โดยมีสาระสำคัญต่างๆ ดังนี้ (1) สนับสนุนการเลือกใช้วัตถุดิบเนื้อโปรตีนและผักจากเกษตรกรท้องถิ่นไทยที่ได้มาตรฐาน (2) เนื้อสัตว์ต้องถูกสุขอนามัย ถูกเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมดี (3) พืชผักและเห็ด เน้นผลผลิตที่เป็นออร์แกนิก และ (4) ร้านทำลูกชิ้นหมู เกี๊ยว และผลิตภัณฑ์อาหารทะเลลูกชิ้นกุ้งแปรรูปเอง
ลูกค้าสามารถเลือกน้ำซุป 2 สไตล์ในหม้อเดียวกัน จากทั้งหมด 5 รสชาติ คือ ซุปสุกี้น้ำดำ ซุปต้นตำหรับ ซุปแกงกะหรี่ญี่ปุ่น ซุปยาจีน และ ซุปต้มยำกุ้งน้ำข้น กลุ่มเมนูเนื้อชนิดต่างๆสำหรับมาแกว่งในน้ำชาบูชาบู มีให้เลือกได้ทั้งเนื้อโคขุนสายพันธุ์ชาโรเล่ส์ และ เนื้อหมูเกรดพรีเมี่ยมต่างๆ
ตลอดหนึ่งทศวรรษ เส้นกราฟการแข่งขันตลาดอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนภาพความน่าเชื่อถือและมาตรฐานของ Shabugu ที่สร้างไว้ให้กับลูกค้าได้อย่างไม่ตกหล่น กล่าวได้ว่า ยิ่งแก่ พวกเขาก็ยิ่งเก๋าขึ้น
“การเริ่มทศวรรษที่ 2 ของ Shabugu ถือได้ว่าเป็นโลกใบใหม่ของชาบูชาบู ที่ไม่ได้เล่าเรื่องเพียงแค่การอิ่มอร่อยของหม้อไฟร้อนๆ เท่านั้น แต่ชาบูกลายเป็นการเสพบรรยากาศอันน่ารื่นรมย์อีกรูปแบบ เคียงคู่ไปกับเครื่องดื่มชั้นดี ชนแก้วสังสรรค์บนโต๊ะกว้างๆที่แน่นไปด้วยของกินแสนอร่อย โดยมีหม้อไฟตรงกลาง ทำหน้าที่กระชับสัมพันธ์คนข้างกายให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
นับว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ เรื่องใหม่ ที่ยังไม่เคยปรากฏอยู่ในธุรกิจชาบูมากนัก เพราะจะมีการแนะนำเครื่องดื่มพิเศษให้กับลูกค้า ที่เหมาะกับการรับประทานคู่กับชาบูและเนื้อต่างๆ นั่นเอง” คุณกันและคุณหนิง อธิบายถึงมุมมองประสบการณ์โลกที่ 3 ของวิถีชาบูชาบู… เพราะหลังจากนี้ เมื่อลูกค้ามารับประทาน Shabugu และอาจค้นพบว่า โชจูจากเกาหลี คงเหมาะกับเนื้อหมูคุโรบูตะแบบไม่น่าเชื่อ หรือ ไวน์แดงที่คนเล่าลือกันว่าเหมาะกับสเต็ก บางทีเนื้อลายหินอ่อนสวยๆก็คงเข้าคู่รสชาติที่ดีเยี่ยมเลยไม่น้อย
ด้วยความที่เป็น Shabugu เป็นร้านชาบู local hotpot มาแต่กำเนิด ทำให้คุณกันและคุณหนิง มีไอเดียอยากดึงเสน่ห์วัฒนธรรมอาหารพื้นเมือง มานำเสนอใหม่ในวิถีแห่งชาบูชาบู แน่นอนว่าสักวัน ลูกค้าอาจจะได้รับประทาน หม้อไฟแกงอ่อม หรือ หม้อไฟน้ำเงี้ยว ตามช่วงเทศกาลสำคัญของเชียงใหม่ ซึ่งทุกอย่างสามารถเป็นไปได้ทั้งสิ้น เพราะพวกเขา คือ ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการ ‘ต้ม’ นั่นเอง
หัวใจสำคัญอีกประการของทุกธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแล้ว คือ การตอบแทนคืนสู่สังคม
“เพราะพวกเราเริ่มต้นมาจากสังคม เราก็ต้องคืนสู่สังคม หากสถาบันการศึกษาใดที่ต้องการการสนับสนุนดังกล่าว โปรดติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับทางร้านได้ตลอดเวลา” พวกเขากล่าว
Shagubu ตั้งปณิธานให้การช่วยเหลือต่างๆ ตามนโยบายและงบประมาณร้านที่ได้กำหนดไว้ เช่น การมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนนักศึกษาผู้ยากไร้ การมอบทุนสนับสนุนชมรมกีฬาของสถาบันการศึกษาต่างๆ เชียงใหม่ และอื่นๆอีกมากมาย
ในอนาคตอันใกล้นี้ เสน่ห์ของชาบูสไตล์ Shabugu เตรียมพร้อมขยับขยายไปประจำแต่ละมุมเมืองเชียงใหม่ถึง 10 สาขา ซึ่งในแต่ละสาขา ล้วนมีสไตล์และรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป เพิ่มเติมถึงการเข้าถึงของลูกค้าที่ง่ายขึ้นและอบอุ่นกว่าเดิม โดยไม่ทิ้งคราบความเป็นบรรยากาศชาบูแห่งโลกที่ 3 ประจำท้องถิ่นเชียงใหม่ ที่ทุกคนจะต้องมาได้ลองสักครั้งในชีวิต!
สาขาโครงการรูม หลังบิ้กซีเอ็กซ์ตร้า (Google Map)
โทร. 053 245 554
สาขานิ่มซิตี้เดลี่ สี่แยกสนามบิน (Google Map)
โทร. 053 270 978
เปิดทุกวัน 11:00-21:00 น
Facebook: shabugu
