Chef’s Secret: ‘COFFATIC Coffee Balsamic’ เมื่อกาแฟเป็นมากกว่าเครื่องดื่ม  

 |  March 15, 2018

Read this article in English

‘COFFATIC Coffee Balsamic’
เมื่อกาแฟเป็นมากกว่าเครื่องดื่ม  

หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องเล่าจากชาวเขาว่า ‘ครั้งหนึ่งผืนป่าบนยอดดอยแห่งนี้ เคยเป็นไร่ฝิ่นมานานนับปี จนกระทั่งวันหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงมอบต้นกาแฟ 2-3 ต้นแก่พวกเขา และ ต้นไม้เล็กๆเพียงไม่กี่ต้น ก็ได้เปลี่ยนไร่ฝิ่นมาสู่สวนกาแฟอันกว้างใหญ่ไพศาลจวบจนปัจจุบัน’ 

ฮิลล์คอฟฟ์ บริษัทกาแฟแห่งแรกของเชียงใหม่ ที่เติบโตไปพร้อมประวัติศาสตร์อันเข้มแข็งของกาแฟไทย กำลังพาตัวเองก้าวข้ามขีดจำกัด จากผู้อยู่เบื้องหลังกาแฟมานานนับกว่า 40 ปี มาสู่การทำงานวิจัยด้านนวัตกรรมกาแฟ เพื่อสร้างความยั่งยืนทั้งรายได้และอาชีพแก่เกษตรกรไทยผู้ปลูกกาแฟบนยอดดอย รวมถึงการแก้ไขปัญหามลพิษทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากกระบวนการอุตสาหกรรมกาแฟให้น้อยลงและหมดไป

“กาแฟมากกว่า 10 ตัน ถูกส่งเข้าบริษัทกาแฟฮิลล์คอฟฟ์ในทุกๆ วัน การปลอกเปลือกผลของกาแฟเชอร์รี่จะต้องทำให้เสร็จภายใน 6 ชั่วโมง เพราะไม่เช่นนั้นเปลือกกาแฟจะเสื่อมสภาพและสร้างมลภาวะทางน้ำตามมา ด้วยปัญหาที่เราพบเห็นจากยอดดอยลงมาสู่พื้นราบ เราจึงมองวิธีการหยุดกระบวนเน่าเสีย และ นั่นทำให้งานวิจัยเกี่ยวกับผลกาแฟเกิดขึ้นในเวลาต่อมา” นฤมล ทักษอุดม หรือ คุณปุ่น ผู้บริหารธุรกิจฮิลล์คอฟฟ์ กล่าว

ภายใต้การสนับสนุนทุนวิจัยและความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ สํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สมาคมส่งเสริมนวัตกรรมและการประดิษฐ์ไทย (ATIP) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โครงการทุนพัฒนานักวิจัยและงานวิจัยเพื่ออุตสาหกรรม (ทุน พวอ) และ กลุ่มนักวิจัยกลุ่มรุ่นใหม่จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทำให้พบคุณประโยชน์อันมหาศาลในผลกาแฟเชอร์รี่ และ นำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในเวลาต่อมา

กรดคลอโรจินิก (Chlorohgenic Acid) เป็นสารสำคัญที่มักพบเจอได้ในเมล็ดกาแฟ แต่หลังจากลองสกัดออกจากผลกาแฟเชอร์รี่ พบว่ามีสารชนิดดังกล่าวมากถึง 11% ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดภาวะไขมันในเลือด ลดภาวะไขมันพอกตับ ลดภาวะการอักเสบ ลดภาวะดื้ออินซูลิน  ลดการดูดซึมคอเลสเตอรอล และ มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนูมุลอิสระ

เรานำผลการสกัดสารในผลกาแฟมาวิจัยต่อ เพื่อหาหนทางรักษาฤทธิ์ของกรดคอลโรจินิกให้ได้ตรงตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ศึกษาความเป็นไปได้ที่จะให้กาแฟออกมาในรูปแบบ ‘การกระโดดออกจากถ้วยกาแฟ’ ในโปรเจ็กต์ที่เรียกสั้นๆว่า ‘Coffee Foods’ 

จากผลการทดลองของสารสำคัญในผลกาแฟ นำมาสู่การผลิตนวัตกรรมเครื่องปรุงของอาหารตะวัน นั่นคือ COFFATIC Coffee Balsamic หรือ แบรนด์บัลซามิคที่ผลิตจากผลกาแฟเชอร์รี่ เมื่อนำมาเทียบกับบัลซามิคคุณภาพชั้นนำในท้องตลาดแล้ว ก็ยังพบว่า คุณสมบัติที่มีอยู่ในบัลซามิคของ Coffatic ยังคงสูงกว่าบัลซามิคที่ทำมาจากองุ่น และ ล่าสุดงานวิจัยผลกาแฟดังกล่าว ยังคว้ารางวัลเหรียญทองจากเทวีการประกวดนวัตกรรมระดับสากล International Invention and Design Competition (IIDC) 2017 ที่ ฮ่องกง เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา

“ตลอดระยะเวลา 40 ปีของการทำธุรกิจกาแฟ เราพบว่า จากต้นกาแฟที่ไม่มีคนปลูก ก็มีคนปลูก จากวันที่ไม่มีคนดื่มกาแฟ ก็ได้รับแรงสนับสนุนทั้งภาครัฐและเอกชนให้มีการบริโภคกาแฟ แต่คำว่า ‘ยั่งยืน’ ยังคงเป็นคำถามที่อยู่ในใจเรามาตลอด เพราะเราเห็นชาวบ้านปลูกกาแฟจนสามารถส่งลูกหลานลงมาเรียนหนังสือในเมืองใหญ่ได้ แต่หลังจากนั้น ลูกหลายก็ขอให้พ่อแม่ขายสวนกาแฟเพื่อลงมาอยู่พื้นราบ และ บางครั้งเราก็เห็นการขยายพื้นที่ปลูกกาแฟโดยลืมวิธีการรักษาผืนป่าไว้คงเดิม นั่นทำให้ความยั่งยืนระหว่างคนบนภูเขากับพื้นราบก็ไม่มีสามารถเกิดขึ้นได้จริง

ในการเดินทางของธุรกิจกาแฟของฮิลล์คอฟฟ์ จึงมุ่งเข้าหางานวิจัย เพราะเราเสาะหาถนนเส้นใหม่ ที่คาดว่าจะเป็นคำตอบของคำว่า ‘ยั่งยืน’ ซึ่งหมายถึง เราไม่ได้เติบโตอยู่เพียงคนเดียว แต่สามารถทำให้ทุกคนในกระบวนการอุตสาหกรรมกาแฟ สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ตั้งแต่เกษตรกรไปจนถึงนักวิจัย ฉะนั้นงานวิจัยที่เราทำมา ยังคงไม่ใช่ที่สิ้นสุดของคำตอบทั้งหมด และ เรายังคงเชื่อว่าคนไทยรุ่นใหม่ยังมีกำลังผลักดันธุรกิจกาแฟไทยให้ก้าวหน้าไปได้อีก” คุณปุ่นกล่าวในท้ายสุด

Hillkoff Learning Space
397/2 ถ.มหิดล ต.หนองหอย (ตั้งอยู่ข้างกับบริษัทแอมเวย์สาขาเชียงใหม่ ถนนมหิดล)
โทร. 053 231 1030 และ 053 213 078
Facebook: ilovehillkoff
Facebook: Learningspace.Hillkoff
E-mail: [email protected]
www.hillkoff.com