Chef’s Secret: เชฟเปาโล และเชฟโรดัน สองคู่หูทีมพ่อครัว จากโรงแรมแชงกรี-ลาเชียงใหม่

 |  April 9, 2017

เชฟเปาโล และเชฟโรดัน

สองคู่หูทีมพ่อครัว จากโรงแรมแชงกรี-ลาเชียงใหม่

เมื่อไม่นานมานี้ โรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่เพิ่งเปิดตัวทีมงานเชฟรุ่นใหม่ผ่านงานเปิดตัวของ Afternoon Tea Buffet ทำให้ทีมงาน Spoon&Fork ได้มีโอกาสทักทาย พร้อมทำความรู้จักกับสองเชฟหน้าใหม่ในวงการอาหารโรงแรมชั้นนำ คือ เชฟเปาโล เปโรซี และ เชฟโรดัน ซีโด ซูเลอต้า

เชฟเปาโล เปโรซี เป็นหัวหน้าทีมงานหน้าใหม่ชาวอิตาเลียน ผู้พกพารอยยิ้มและชื่นชอบการเล่นมุขสนุกสนานกับเพื่อนร่วมงานเสมอ ในวัยเด็กเขาได้รับแรงบันดาลใจการทำอาหารจากมารดา จึงได้ดำเนินเจตนารมณ์ตามความฝันของตนมาจนถึงปัจจุบัน ประสบการณ์ด้านอาหารของเขาเริ่มต้นขึ้นที่อิตาลี ประเทศบ้านเกิด ในร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หนึ่งดาวที่มีชื่อว่า Pirana ตั้งอยู่ในเมืองปราโต จากนั้นเขาได้ใช้เวลาอีกหลายปีทำงานตามร้านอาหารชื่อดังต่างๆของอิตาลี และร้านสุดท้ายที่ได้ทำงานด้วยมีชื่อว่า Arnolfo ซึ่งเจ้าของร้านเป็นเชฟชื่อดังแห่งอิตาลีที่รู้จักกันในนามว่า Gaetano Trovato ก่อนจะย้ายมาเป็นพ่อครัวอาหารอิตาเลี่ยนที่โรงแรมแชงกรี-ลา โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

การย้ายมาทำงานในโซนเอเชีย ทำให้เขาได้เปิดประสบการณ์ด้านอาหารกว้างไกลมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ ผู้ผลิต  หรือทัศนคติของผู้คนที่แตกต่างกันออกไป แต่ไม่ว่าจะทำงานอยู่สถานที่ใด เชฟเปาโลเรียนรู้การทำอาหารผ่านลูกค้าที่มารับประทานอาหารของเขาอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อได้ย้ายมาทำงานในเครือโรงแรมแชงกรี-ลา บนเกาะแมคตัน ประเทศฟิลิปปินส์ เขาก็ได้ทำงานร่วมกับเชฟโรดัน ซีโด ซูเลอต้า เชฟขนมหวานผู้มากความสามารถอีกคนหนึ่งแห่งเกาะแมคตัน

เชฟโรดัน ซีโด ซูเลอต้า พ่อครัวหน้าคมเข้ม ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเชฟขนมหวานแนวเพสตรี้แห่งโรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่คนนี้ เคยทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยเชฟขนมหวานในเครือของแชงกรี-ลาที่ประเทศฟิลิปปินส์ แต่ก่อนจะเข้าสู่เส้นทางโลกแห่งขนมหวานนั้น เชฟโรดันได้รับแรงบันดาลใจในการทำงานจากพ่อครัวเบเกอรี่คนหนึ่งในวัยเยาว์ ทำให้เขาต่อสู้ฝึกฝนทำขนมหวานด้วยตนเองมาตลอด  เมื่อย่างเข้าวัย 22 ปี เชฟโรดัน ได้มีโอกาสได้ทำงานตำแหน่งขนมเพสตรี้ที่โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งของฟิลิปปินส์ และตลอดระยะเวลามากกว่า 10 ปีที่ได้ทำงานในเครือโรงแรมชั้นนำต่างๆ เขาได้พัฒนาฝีมือการทำขนมมากขึ้นตามลำดับ เรียนรู้วิธีการนำวัตถุดิบท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ขนมหน้าตาใหม่ๆ ที่เต็มไปด้วยศิลปะงดงาม และน่ารับประทาน เมื่อย้ายมาอยู่โรงแรมเชงกรี-ลา เกาะแมคตัน เขาก็ได้พบกับเชฟเปาโลที่นั่น

การเดินทางมาสู่โรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่ คือ จุดเริ่มต้นของความท้าทายครั้งใหม่ที่พวกเขาต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความแตกต่างของภาษา วัฒนธรรม และทัศนคติของคนในท้องถิ่น หลังจากศึกษาการตลาดอยู่นานหลายเดือน Afternoon Tea Buffet หรือบุฟเฟ่ต์น้ำชายามบ่ายที่มาพร้อมกับกองทัพทั้งคาวหวานมากกว่าสามสิบรายการก็ได้ถือกำเนิดขึ้น เป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นโบว์แดงร่วมกันของสองเชฟเปาโล และโรดัน

เสน่ห์ของบุฟเฟ่ต์น้ำชาชุดนี้ คือ ในแต่ละเมนูของคาวและหวาน ล้วนมีกลิ่นอายสไตล์อิตาลีแฝงอยู่ในแต่ละรายการ ไม่ว่าจะเป็นเมนูแฮมหมูสไตล์อิตาเลี่ยนชนิดต่างๆ หรือมุมชีสหลากประเภท รวมไปถึง พายมะพร้าว เค้กโอเปร่า ขนมปังสโคน พุดดิ้งข้าวรสวานิลลา และมาการอง แต่ความพิเศษของบุฟเฟ่ต์ชุดนี้อยู่ที่ เค้กทีรามิสุสดสไตล์อิตาเลี่ยน ของแท้ โดยใช้หม้อต้มโมก้าพอทมาเป็นส่วนหนึ่งการชงกาแฟ กับการอบโคนไอศกรีมแบบดสดๆออกจากเตา ซึ่งจะให้กรอบนุ่ม ต่างจากโคนไอศกรีมสำเร็จรูปอย่างชัดเจน และที่พลาดไม่ได้คือ ขนมปังสโคน ที่อบสดใหม่ออกมาเสริฟทุกๆชั่วโมง (freshly baked scones)  โดยบุฟเฟ่ต์น้ำชายามบ่ายนี้ราคาสุทธิอยู่ที่ 688 ต่อท่าน

ในอนาคตทั้งเชฟเปาโล และโรดัน รวมถึงทีมงานพ่อครัวแม่ครัวของโรงแรมฯยังคงมีแผนเตรียมเมนูเซอร์ไพร์สไว้อีกมากมายให้บรรดาแขกที่รักการเสพอาหารมาลิ้มลองกัน รับรองว่าไม่มีคำว่าผิดหวังอย่างแน่นอน

New Chefs at Shangri-La Chiang Mai Hotel

Shangri-La hotel has two new chefs we would like to introduce to you this month – Chef Paolo Pelosi and Chef Roldan Credo Zuleta.

Chef Paolo is the hotel’s new executive chef and comes with a wealth of experience. Recently arrived in Chiang Mai from Shangri-La Tokyo and Shangri-La’s Mactan Resort and Spa Cebu, Chef Paolo started his distinguished career working in the one Michelin stared Pirana restaurant in Italy’s Prato before working with Gaetano Trovato at his famous Amolfo restaurant. With a few years in Asia under his belt, Chef Paolo says that he has been fascinated by, and learnt from, local ingredients as well as the interactions he has had from his clients.

Chef Roldan is Shangri-La’s new pasty chef has been trained in some of Philippines’s best kitchens from a young age. He has come to Chiang Mai from the Philippines where he was Shangri-La’s assistant pastry chef. He has spent his life making desserts and at tender age of 22 had the opportunity to work as pastry chef at one of Philippines’s most famous restaurants. With ten years’ experience under his belt, he will be creating exquisitely presented and delicious desserts at the Shangri-La.

Shangri-La’s Afternoon Tea Buffet will be a decadent feast for the eyes and taste buds, with an incredible 30 savoury and sweet bites for you to choose from to accompany your steaming cup of tea. While Chef Roldan will wow with his sweet delights, Chef Paolo will also be infusing Italian flavours into many items, which will include cold cuts and cheeses imported from Italy. Other items in the buffet include coconut pie, opera cake, scones (baked fresh on the hour!), white vanilla pudding and the Thai favourite – macaroons. And you can’t leave until you try the special tiramisu, faithful to old Italian recipes. All of this for only 688 baht per person.

Chefs Paolo and Roldan told Spoon&Fork to keep checking up on them as they have some culinary surprises up their sleeves in the coming months.

โรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่

ชั้น 2 บริเวณล็อบบี้ เลาจน์

Afternoon Tea Buffet ทุกวันเสาร์ตั้งแต่เวลา 13.00 – 17.00 น.

และ Happy Hour เริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 – 19.00 น. ของทุกวัน

โทร. 053 253 888

Facebook: shangrilachiangmai

Shangri-La Chiang Mai Hotel

At the Lobby Lounge of the second floor

Afternoon Tea Buffet opens on every Saturday : 1 – 5pm and Happy Hour opens daily at 6 – 7pm

Tel. 053 253 888

Facebook: shangrilachiangmai